ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายคนลุ้นกันจนตัวโก่งสำหรับการเลือกตั้งของกรีซและแนวทางการเเก้ปัญหาหนี้ยูโรโซน เชื่อว่าใครหลายคนก็คงลุ้นอยู่ว่ากรีซจะอยู่หรือจะไป เลื่อนมาช่วงกลางสัปดาห์ก็ยังต้อลุ้นต่ออีกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะออกมาตรการ QE3 หรือไม่ ก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์หลายคนมองไว้ว่า “ไม่ออก” ทำเอาตลาดหุ้นทั่วโลกเหงากันเลยทีเดียว สำหรับคอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” ในสัปดาห์นี้จะพาไปรู้จักผู้บริหารหนุ่มแต่ไม่โสดสัญชัย เนื่องสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) ว่ามีวิธีการบริหารจัดการเงินอย่างไรกันบ้าง
ภรรยาช่วยวางแผนทางการเงิน
สัญชัย บอกว่า การวางแผนทางการเงินของผมส่วนใหญ่จะเน้นไปทางภาษี โดยการซื้อ LTF-RMF รวมถึงประกันชีวิต โดยทางภรรยาเป็นตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งเขาจะดูแลทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ รวมถึงการวางแผนการเงินต่างๆ ส่วนหลักการเก็บออมนั้นผมจะแบ่งเก็บประมาณ 20% โดยจะแยกย่อยไปลงทุนในหุ้น และกองทุน รวมถึงประกันชีวิต ส่วนการลงทุนในทองคำนั้น ส่วนตัวยังไม่มีความถนัดในส่วนนั้น รวมถึงยังไม่ได้ศึกษาการลงทุนอย่างจริงจังก็เลยยังไม่ได้ลึกในส่วนตรงนี้ ผมคิดว่าการที่เราจะลงทุนอะไรควรศึกษาให้รู้ลึก รู้จริงก่อน ให้เชี่ยวชาญก่อนจะลงทุน
การคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตในแต่ละตัวนั้น ผมจะเลือกหุ้นที่เข้าใจและรู้รายละเอียดของธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทที่ทำอสังหาริมทรัพย์ หรือบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งมองแล้วว่าบริษัทที่เลือกเป็นบริษัทที่ดีมีอนาคต ผลประกอบการดี โดยส่วนตัวผมมองว่าตลาด mai มีความน่าสนใจและศักยภาพสูง ซึ่งหากมองในแง่ของกำไรจากการขายหลักทรัพย์ หรือ Capital Gain นั้น mai มีได้เร็วกว่า
“ความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นนั้น ผมมองว่าหากไม่ใช่นักลงทุนที่ชอบลงทุนระยะสั้น เราก็สามารถจัดการกับความเสี่ยงได้ เพราะหุ้นก็มีขึ้นมีลง หากพื้นฐานดีเวลาลงก็คงจะลงไม่มาก”
สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมนั้น ถ้าเป็น RMF จะเป็นการลงทุนระยะยาวถึงอายุ 55 ปี ผมก็จะเน้น LTF เป็นหลัก แต่ก็ซื้อเต็มเพดานในการหักลดหย่อนภาษีทั้ง 2 กองทุน เพราะว่าได้ประโยชน์ทั้งสองอย่าง ในส่วนของ LTF หลายคนอาจไม่ได้คิดก็จะซื้ออย่างเดียว ซึ่งอาจจะไม่รู้ว่าเมื่อครบ 4 ปีเเล้วสามารถหมุนได้ เพราะว่าการที่เราเอาเงินมาซื้อ LTF ต้องหาเงินสดมาซื้อ แต่ถ้าเราซื้อครบ 5 ปี เราสามารถหมุนเอาเงินของปีแรกขายไป แล้วค่อยเอาเงินมาซื้อของปีถัดไปก็เท่ากับว่าไม่ต้องไปหาเงินสด และได้ประหยัดภาษีอีกด้วย
“ภรรยาผมก็จะดูว่ากองทุนรวมนั้นมีสับเปลี่้ยนการลงทุนได้หรือไม่ ซึ่งหากสับเปลี่ยนได้ก็จะสวิตช์ไป ในช่วงที่หุ้นลงก็ไปซื้อกองทุนรวมเพราะได้หน่วยลงทุนมากขึ้น พอหุ้นขึ้นก็ขายไปเพื่อซื้อกองทุนที่ราคาน้อยหน่อยแต่ได้หน่วยลงทุนมากขึ้น และให้ปันผลที่ดี”
รู้จัก “บิวเดอสมาร์ท”
สำหรับธุรกิจของบริษัท บิวเดอสมาร์ท นั้นประกอบด้วย 1. ผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายในสำนักงาน (Commercial Office Solution) เช่น ระบบเฟรมผนังกั้นห้อง, มือจับสเตนเลส และอุปกรณ์อัลลอย พรมปูพื้นที่มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันความเปียกชื้น เป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายในสำนักงานส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ลิขสิทธิ์ตราสินค้าของบริษัท 2. ระบบผนังฝ้าและเพดาน (Fast track wall & ceiling systems) เช่น ผนังยิปซัม ฝ้าเพดานยิปซัม ระบบโครงคร่าวผนัง ระบบโครงคร่าวเพดานที-บาร์ ระบบผนังและฉนวนความร้อน 3. สี วัสดุซ่อมแซมรอยต่อ กาว ซิลิโคนและอุปกรณ์เสริม (Paints, Glues, Acrylic Sealants) อาทิ สีวัททิล เป็นสีชนิดพิเศษที่สามารถสร้าง “ลาย” ได้, วัสดุซ่อมแซมรอยต่อ และยาแนว Ameron, Fuller และ A-Seals เป็นต้น
4. ระบบประตูและหน้าต่าง (Innovation Door & Window Systems) ระบบประตูและหน้าต่างอะลูมิเนียมอัจฉริยะ Fletcher ซึ่งมีจุดเด่นเน้นการใช้งานง่ายผสานกับดีไซน์อย่างลงตัว แข็งแรง ทนทาน, อุปกรณ์ประตูระบบต่างๆ 5. ผลิตภัณฑ์สำหรับงานตกแต่งภายนอก (Outdoor Living Solution) เช่น ผลิตภัณฑ์ไม้สน, ไม้ MDF, ไม้แข็ง Lignia, ผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ “เฌอร่า”, กระเบื้องมุงหลังคา “ห้าห่วง” เป็นต้น 6. กระเบื้อง และอุปกรณ์ห้องน้ำ (Tiling & Sanitary) เช่น ผลิตภัณฑ์กระเบื้องดินเผา Norco และผลิตภัณฑ์ Weber สำหรับงานปูกระเบื้อง และ 7. เครื่องมือ และอุปกรณ์ (Tool & Equipment) เช่น ประเภทผนัง และไฟเบอร์ซีเมนต์, ประเภทสี, ประเภทอะลูมิเนียม และเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกัน
“โปรเจกต์ต่อไปผมคิดว่าอยากจะทำช่องทางการซื้อออนไลน์ ติดจีพีเอสรถส่งของ รวมถึงการมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยในการนำเสนอสินค้าให้แก่ลูกค้า ผมมองว่ามันช่วยประหยัดต้นทุนได้”
สัญชัยทิ้งท้ายว่า คนที่ทำงานและมีรายได้มากให้คิดถึงเรื่องภาษี ซึ่งรัฐก็มีทางออกให้เราในเรื่องการบริหารภาษี เช่นกองทุน LTF-RMF ส่วนคนที่มีรายได้ไม่มากไม่ได้ทำงานรัฐ ไม่มีบำเหน็จบำนาญก็ต้องคิดว่าช่วงเกษียณจะใช้เงินและบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งก็ต้องคิดถึงการเก็บออมมาก่อนเป็นอันดับแรก และที่สำคัญคือการซื้อประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลค่อนข้างสูง