อย่างดีก็แค่ทรงๆ
บรรยากาศการซื้อขายวันนี้ซบเซาต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย ซึ่งขาดแคลนปัจจัยชี้นำ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขาย และบางส่วนลดน้ำหนักการลงทุน จนดัชนีปรับฐานลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
ดัชนีปิดที่ 1,147.43 จุด ลดลง 5.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 18,099 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่องอีก 1,049 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ส่งท้ายงวด 6 เดือนแรก และไม่มีข่าวดีที่รอคอย ทำให้คาดการณ์กันว่าแนวโน้มหุ้นคงมีลักษณะทรงๆ ทรุดๆ เนื่องจากไม่มีข่าวดีที่รอคอย จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะเก็บหุ้น ขณะที่ปัจจัยลบมีมากมาย ทั้งภายนอกและภายใน โดยวิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่เห็นทางออกในการแก้ปัญหา ขณะที่ปัจจัยภายใน นอกจากความคุกรุ่นในสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจก็ไม่ดีนัก โดยการส่งออกเดือนพฤษภาคมขยายตัวเพียง 7% ทำให้ 5 เดือนแรก ยอดส่งออกติดลบ 1% เศษ เป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ตั้งไว้ขยายตัว 15% จึงแทบหมดโอกาสจะเป็นไปตามเป้า และถ้าส่งออกวูบลงจะฉุดให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวตามไปด้วย
นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนต่อเนื่อง จึงไม่อาจหวังได้ว่าต่างชาติจะกลับมาซื้อ และนักลงทุนรายใหญ่ ไม่ว่าสถาบันในประเทศ หรือพอร์ตโบรกเกอร์ ก็คงไม่รีบร้อนซื้อหุ้น เพราะประเมินแล้วว่า ระยะสั้นหุ้นคงไม่ร้อนแรง จะมีเพียงรายย่อยเท่านั้นที่ซื้อ โดยหวังว่าหุ้นจะดีดตัวกลับ แต่ก็ไม่มีประเด็นอะไรที่จะกระตุ้นตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนยย่อยที่ช้อนซื้อมาตลอด ติดหุ้นในรอบนี้ และเชื่อว่าถ้าหุ้นปรับฐานลงต่อ รายย่อยก็จะเข้าไปช้อนเก็บอีก ซึ่งก็จะแบกหุ้นต้นทุนสูงอีกเหมิอนกัน
เมื่อสัปดาห์ก่อนนักวิเคราะห์ หรือนักลงทุนบางส่วนตั้งความหวังว่า ดัชนีจะมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,200 จุด แต่สัปดาห์นี้ความหวังดับวูบลงแล้ว และสิ่งที่กังวลคือ ดัชนีอาจหลุดระดับ 1,100 อีกครั้ง ซึ่งหากอยากจะเก็บหุ้น รอแถวระดับ 1,100 จุดน่าจะดีกว่า
บรรยากาศการซื้อขายวันนี้ซบเซาต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็เป็นไปในทิศทางตลาดหุ้นเพื่อนบ้านย่านเอเชีย ซึ่งขาดแคลนปัจจัยชี้นำ ทำให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขาย และบางส่วนลดน้ำหนักการลงทุน จนดัชนีปรับฐานลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง
ดัชนีปิดที่ 1,147.43 จุด ลดลง 5.48 จุด มูลค่าซื้อขาย 18,099 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายต่อเนื่องอีก 1,049 ล้านบาท
สัปดาห์นี้ส่งท้ายงวด 6 เดือนแรก และไม่มีข่าวดีที่รอคอย ทำให้คาดการณ์กันว่าแนวโน้มหุ้นคงมีลักษณะทรงๆ ทรุดๆ เนื่องจากไม่มีข่าวดีที่รอคอย จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะเก็บหุ้น ขณะที่ปัจจัยลบมีมากมาย ทั้งภายนอกและภายใน โดยวิกฤตหนี้ยุโรปยังไม่เห็นทางออกในการแก้ปัญหา ขณะที่ปัจจัยภายใน นอกจากความคุกรุ่นในสถานการณ์ทางการเมืองแล้ว สถานการณ์เศรษฐกิจก็ไม่ดีนัก โดยการส่งออกเดือนพฤษภาคมขยายตัวเพียง 7% ทำให้ 5 เดือนแรก ยอดส่งออกติดลบ 1% เศษ เป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ตั้งไว้ขยายตัว 15% จึงแทบหมดโอกาสจะเป็นไปตามเป้า และถ้าส่งออกวูบลงจะฉุดให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวตามไปด้วย
นักลงทุนต่างชาติลดน้ำหนักการลงทุนต่อเนื่อง จึงไม่อาจหวังได้ว่าต่างชาติจะกลับมาซื้อ และนักลงทุนรายใหญ่ ไม่ว่าสถาบันในประเทศ หรือพอร์ตโบรกเกอร์ ก็คงไม่รีบร้อนซื้อหุ้น เพราะประเมินแล้วว่า ระยะสั้นหุ้นคงไม่ร้อนแรง จะมีเพียงรายย่อยเท่านั้นที่ซื้อ โดยหวังว่าหุ้นจะดีดตัวกลับ แต่ก็ไม่มีประเด็นอะไรที่จะกระตุ้นตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนยย่อยที่ช้อนซื้อมาตลอด ติดหุ้นในรอบนี้ และเชื่อว่าถ้าหุ้นปรับฐานลงต่อ รายย่อยก็จะเข้าไปช้อนเก็บอีก ซึ่งก็จะแบกหุ้นต้นทุนสูงอีกเหมิอนกัน
เมื่อสัปดาห์ก่อนนักวิเคราะห์ หรือนักลงทุนบางส่วนตั้งความหวังว่า ดัชนีจะมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,200 จุด แต่สัปดาห์นี้ความหวังดับวูบลงแล้ว และสิ่งที่กังวลคือ ดัชนีอาจหลุดระดับ 1,100 อีกครั้ง ซึ่งหากอยากจะเก็บหุ้น รอแถวระดับ 1,100 จุดน่าจะดีกว่า