xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ชี้สัญญาณร้ายหั่นเครดิต 15 แบงก์ จุดชนวนโดมิโน-แนะจับตาใกล้ชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ซีอีโอ “เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” ชี้ “มูดีส์” หั่นเรตติ้ง 15 แบงก์ทั่วโลก ถือเป็นข่าวร้ายขย่มตลาดหุ้น และซ้ำเติมปัญหายุโรป แนะให้จับตาสถานะ “สถาบันการเงิน” อย่างใกล้ชิด เพราะอาจกระทบเป็นโดมิโน พร้อมมั่นใจ 10 มาตรการ “รบ.ปู” เอาอยู่ ส่วนตลาดหุ้นไทย ครึ่งปีหลังแนวโน้มผันผวน หนี้สาธารณะไทยไม่มีปัญหา ขณะที่ข้อมูลเชิงลึกพุ่งเป้า 5 แบงก์ใหญ่ของสหรัฐฯ และเครดิตสวิส อาจเป็นตัวจุดชนวน

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรตติ้ง) ธนาคารสำคัญของโลกจำนวน 15 แห่ง โดยยอมรับว่า เป็นข่าวร้ายต่อตลาดหุ้นฝั่งตะวันตก และตลาดหุ้นของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ สถานการณ์เริ่มดีขึ้น หลังทราบผลการเลือกตั้งในกรีซ

“ผลการเลือกตั้งกรีซที่ออกมา ถือว่าเป็นข่าวดี และช่วยบรรเทาบรรยาศตึงเครียด และลดปัญหาประชาชนแห่ถอนเงินได้ชั่วคราว แต่ยังไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะทางยุโรปยังต้องประคอง เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว”

ทั้งนี้ ต้องยอมรับการมองกรีซประเทศเดียวไม่น่ากลัว แต่ถ้ากระทบสถาบันการเงิน และกระทบเป็นโดมิโนจะน่ากลัว ซึ่งต้องจับตามองสถานการณ์ที่เกี่ยวพันถึงสถานะของสถาบันการเงินให้ใกล้ชิด เพราะหากสถาบันการเงินมีปัญหาถึงระดับหนึ่ง อาจต้องใช้ไม้ตาย คือ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) มาใช้เพิ่ม เพื่อให้สถานการณ์กลับมายืนได้

นายมนตรี ยังเชื่อมั่นว่า 10 มาตรการรัฐบาลที่ออกมา สามารถรับมือปัญหายุโรปได้ เพราะหากย้อนไปมองถึงรอบต้มยำกุ้ง จะเห็นว่าคนไทยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น และถ้าเทียบสถาบันการเงินยุโรป ช่วงสถาบันการเงินเลย์แมนล้ม มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนมากถึงประมาณ 30 เท่า ไทยมีประมาณ 10 เท่า ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพี ทางยุโรป สหรัฐอเมริกา มีมากกว่าร้อยละ 100 แต่ของไทยหาอยู่ที่ร้อยละ 46-47 ยังไม่ค่อยน่ามีปัญหาอะไร

ส่วนตลาดหุ้นครึ่งปีหลังมองว่า ยังผันผวน ข่าวดีอาจไปไม่ไกลมาก เพราะปัญหายังไม่ฟื้นเร็ว ประกอบกับการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ได้สะสมปัญหาใหม่ เช่น หนี้สาธารณะต่อจีดีพีของแต่ละประเทศ มองเป้าดัชนีของไทยเชิงปัจจัยพื้นฐาน กรณีเศรษฐกิจโลกไม่มีสถานะที่เลวร้ายอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าดัชนีมีโอกาสไปถึง 1,360 จุดได้แน่นอน

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์สฯ ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่ 15 แห่งทั่วโลก เนื่องจากมีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป และความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดเงิน

สำหรับรายละเอียดของสถาบันการเงินที่ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าว พบว่า มีรายชื่อธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกาจำนวน 5 แห่งที่ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดยแบงก์ ออฟ อเมริกา ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์, ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์ แมนแซคส์ และเจพีมอร์แกน ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น

ขณะที่ รอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา และธนาคารรายอื่นๆ อีก 9 แห่งของยุโรป รวมถึง ธนาคารบาร์เคลย์ส, ดอยช์ แบงก์, บีเอ็นพี พาริบาส์, ยูบีเอส, เครดิต สวิส, เครดิต อากริโคล, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และโซซิเอเต เจนเนอราล ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเช่นกัน โดยเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลงมากที่สุดถึง 3 ขั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น