เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ยูบีเอส เอจี สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งมีฐานอยู่ที่นครบาเซิล และ ซูริค ของสวิตเซอร์แลนด์ เผยรายงานประจำปี “ยูบีเอส เวลธ์ แมเนจเมนท์ รีเสิร์ช” ฉบับล่าสุด ที่ระบุว่า กรุงออสโล ของนอร์เวย์ ครองแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 6 ตามมาด้วย นครซูริค และ เจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทย ถูกระบุเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงเป็นลำดับที่ 45 ของโลก และเป็นลำดับที่ 7 ของทวีปเอเชีย
รายงานดังกล่าวของยูบีเอส ซึ่งมีการจัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี ระบุว่า 20 เมือง ที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดของโลกในปีนี้ คือ กรุงออสโล ของนอร์เวย์ ที่ครองตำแหน่งเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ตามมาด้วย ซูริค และ เจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์, กรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก, กรุงสตอกโฮล์ม ของสวีเดน, กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น, นครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย, กรุงเฮลซิงกิ ของฟินแลนด์, นครโตรอนโต ของแคนาดา, สิงคโปร์, กรุงเวียนนา ของออสเตรีย, กรุงปารีส ของฝรั่งเศส, กรุงลักเซมเบิร์ก ของประเทศลักเซมเบิร์ก, มหานครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ, กรุงลอนดอน ของสหราชอาณาจักร, นครมิวนิค ของเยอรมนี, นครมอนทรีออล ของแคนาดา, นครแฟรงก์เฟิร์ต ของเยอรมนี, เซาเปาโล ของบราซิล และกรุงดับลิน เมืองหลวงของสาธารณรัฐไอร์แลนด์
ในทางกลับกัน รายงานฉบับนี้ เผยว่า เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดของโลก คือ นครมุมไบ ของอินเดีย รองลงมา คือ กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์, เดลี ของอินเดีย, กรุงไนโรบี ของเคนยา และกรุงไคโร ของอียิปต์
ขณะเดียวกัน รายงานฉบับนี้ ยังระบุว่า กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 12 ล้านคน และเป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดของภูมิภาคเอเชียนั้น มีค่าครองชีพที่แพงเป็นอันดับที่ 45 ของโลก และแพงเป็นอันดับที่ 7 ของทวีปเอเชีย รองจากกรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น, สิงคโปร์, นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กรุงโซล ของเกาหลีใต้, เขตปกครองพิเศษฮ่องกง และกรุงไทเป ของไต้หวัน
ทั้งนี้ ยูบีเอส อ้างว่า ผลสำรวจดังกล่าวได้มาจากการเก็บข้อมูลจาก 73 เมืองใหญ่ทั่วโลก และนำข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าและบริการต่างๆ ในพื้นที่มาคำนวณเพื่อจัดอันดับในครั้งนี้
ด้าน บิล มิลเลอร์ ซีอีโอของเว็บไซต์ด้านการเดินทางและวางแผนท่องเที่ยวชื่อดัง “ชีโปแอร์ ดอต คอม” ให้ความเห็นว่า นักท่องเที่ยวควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับที่พัก ราคาสินค้าและบริการของเมืองที่ตนต้องการไปเที่ยวให้ละเอียดก่อนการเดินทาง รวมถึงควรสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากคนในพื้นที่ และควรวางแผนการท่องเที่ยวแบบ “คิดนอกกรอบ” เช่น การหาจุดที่มีที่พักราคาถูก การเดินเท้าแทนการนั่งรถรับจ้าง การรับประทานอาหารตามร้านข้างทาง หรือการไปเยี่ยมชมสถานที่ซึ่งไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ฯลฯ เนื่องจากวิธีการเหล่านี้จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของนักท่องเที่ยวได้มาก แม้จะเดินทางไปยังเมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพสูงเป็นลำดับต้นๆ โลกก็ตาม