สินเชื่อซอฟต์โลน ธอส.สุดฮอต เพียง 3 วันยื่นขอกู้เต็มวงเงิน 9 พันล้านบาท พร้อมให้ยื่นกู้สูงกว่าวงเงินสำรองไว้ 5.5 พันล้านบาท ระบุหากยอดยื่นกู้มากเล็งขอกู้ ธปท.เพิ่ม ขณะที่สินเชื่อบ้านไม่มีสลิป รอคลังไฟเขียวเดินหน้าปล่อยสินเชื่อได้ทันที
แหล่งข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า โครงการสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำภายใต้ “โครงการบ้าน ธอส.-ธปท. เพื่อผู้ประสบอุทกภัย” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี วงเงิน 9 พันล้านบาท หลังจากเปิดรับเรื่องขอสินเชื่อไปวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น มีลูกค้าของ ธอส.ให้ความสนใจโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก และมียอดขอสินเชื่อเข้ามาแล้วประมาณ 7 พันล้านบาท คาดว่าจะเต็มวงเงิน และสรุปยอดได้วันที่ 11 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะเต็มวงเงิน 9 พันล้านบาทแล้ว แต่ธนาคารจะรับเรื่องขอสินเชื่อสำรองไว้อีกประมาณ 5,500 ล้านบาท เพื่อสำรองส่วนที่ยื่นขอกู้เงินเข้ามาแต่ไม่ได้รับการอนุมัติเต็มวงเงินล้านบาทต่อราย หรือไม่เข้าข่ายก็จะเลื่อนส่วนนี้ขึ้นไปแทน ซึ่งอาจจะประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนอีก 5,000 ล้านบาทจะเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทยขอวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพิ่มเติม เพราะธปท.ยังมีวงเงินเหลืออีกมาก จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 3 แสนล้านบาท
“ก่อนหน้านี้ ธอส.ขอวงเงินไป 1 หมื่นล้านบาท แต่ธปท.อนุมัติมา 6 พันล้านบาท เมื่อมารวมกับเงินของธนาคารเอง 3 พันล้านบาท ทำให้มีวงเงินดำเนินโครงการรวม 9 พันล้านบาท ซึ่งการที่ ธปท.ไม่ได้ให้ตามที่ยื่นขอไปครั้งแรกเพราะต้องเกลี่ยให้สถาบันการเงินอื่นๆ ด้วย แต่ได้เปิดช่องว่าหากมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มเติมสามารถยื่นขอเข้าไปได้ในภายหลัง โดยดูจากที่เปิดตัวโครงการไป 3 วันก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก ก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ ธปท.จะพิจารณาจัดสรรวงเงินให้เพิ่มเติม” แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนที่ลูกค้าให้ความสนใจอย่างมากเนื่องจากการให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% นาน 5 ปีนั้นถือว่าต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน และเป็นครั้งแรกที่ ธอส.เคยดำเนินการ เนื่องจากได้สภาพคล่องจาก ธปท.เข้ามาในต้นทุนต่ำ 0.01% เมื่อรวมกับต้นทุนการเงินของธนาคารเอง 4% ทำให้นำมาผสมกันได้ที่ดอกเบี้ย 3+% โดยที่ไม่กระทบกับการดำเนินงานของธนาคาร แม้ว่าจะมีธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มดำเนินโครงการสินเชื่อบ้านเพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปแล้วในอัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาที่เท่ากัน แต่ในส่วนของ ธอส.นั้น มีลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมและได้รับการผ่อนผันไม่ต้องชำระค่างวด 3-6 เดือน ถึงกว่าแสนรายวงเงินสินเชื่อ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเข้าข่ายที่จะขอกู้ในโครงการนี้ได้ทั้งหมด ทำให้วงเงิน 9 พันล้านบาทดังกล่าวหมดลงอย่างรวดเร็วประมาณ 3 วันเท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าของการปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีสลิปเงินเดือนนั้น หลังจากที่คณะกรรมการของธนาคารพิจารณาอนุมัติแล้ว เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสนอเรื่องมาที่กระทรวงการคลังแล้ว หลังจากที่กระทรวงการคลังเห็นชอบก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านของตัวเอง ในเงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะการให้กู้แก่ผู้มีอาชีพอิสระรับจ้างที่ไม่มีสลิปเงินเดือน แต่ต้องมีหลักฐานเงินเข้าออกบัญชีอย่างน้อย 4 เดือนจึงจะสามารถกู้เงินได้ เพราะกลุ่มนี้ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงกว่ากลุ่มที่มีรายได้ประจำ
แหล่งข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า โครงการสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำภายใต้ “โครงการบ้าน ธอส.-ธปท. เพื่อผู้ประสบอุทกภัย” อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี วงเงิน 9 พันล้านบาท หลังจากเปิดรับเรื่องขอสินเชื่อไปวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น มีลูกค้าของ ธอส.ให้ความสนใจโทรศัพท์มาสอบถามจำนวนมาก และมียอดขอสินเชื่อเข้ามาแล้วประมาณ 7 พันล้านบาท คาดว่าจะเต็มวงเงิน และสรุปยอดได้วันที่ 11 มิ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะเต็มวงเงิน 9 พันล้านบาทแล้ว แต่ธนาคารจะรับเรื่องขอสินเชื่อสำรองไว้อีกประมาณ 5,500 ล้านบาท เพื่อสำรองส่วนที่ยื่นขอกู้เงินเข้ามาแต่ไม่ได้รับการอนุมัติเต็มวงเงินล้านบาทต่อราย หรือไม่เข้าข่ายก็จะเลื่อนส่วนนี้ขึ้นไปแทน ซึ่งอาจจะประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนอีก 5,000 ล้านบาทจะเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทยขอวงเงินสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เพิ่มเติม เพราะธปท.ยังมีวงเงินเหลืออีกมาก จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 3 แสนล้านบาท
“ก่อนหน้านี้ ธอส.ขอวงเงินไป 1 หมื่นล้านบาท แต่ธปท.อนุมัติมา 6 พันล้านบาท เมื่อมารวมกับเงินของธนาคารเอง 3 พันล้านบาท ทำให้มีวงเงินดำเนินโครงการรวม 9 พันล้านบาท ซึ่งการที่ ธปท.ไม่ได้ให้ตามที่ยื่นขอไปครั้งแรกเพราะต้องเกลี่ยให้สถาบันการเงินอื่นๆ ด้วย แต่ได้เปิดช่องว่าหากมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มเติมสามารถยื่นขอเข้าไปได้ในภายหลัง โดยดูจากที่เปิดตัวโครงการไป 3 วันก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก ก็ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ ธปท.จะพิจารณาจัดสรรวงเงินให้เพิ่มเติม” แหล่งข่าวกล่าว
ส่วนที่ลูกค้าให้ความสนใจอย่างมากเนื่องจากการให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% นาน 5 ปีนั้นถือว่าต่ำสุดในระบบสถาบันการเงิน และเป็นครั้งแรกที่ ธอส.เคยดำเนินการ เนื่องจากได้สภาพคล่องจาก ธปท.เข้ามาในต้นทุนต่ำ 0.01% เมื่อรวมกับต้นทุนการเงินของธนาคารเอง 4% ทำให้นำมาผสมกันได้ที่ดอกเบี้ย 3+% โดยที่ไม่กระทบกับการดำเนินงานของธนาคาร แม้ว่าจะมีธนาคารพาณิชย์บางแห่งเริ่มดำเนินโครงการสินเชื่อบ้านเพื่อผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปแล้วในอัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาที่เท่ากัน แต่ในส่วนของ ธอส.นั้น มีลูกค้าที่ประสบภัยน้ำท่วมและได้รับการผ่อนผันไม่ต้องชำระค่างวด 3-6 เดือน ถึงกว่าแสนรายวงเงินสินเชื่อ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเข้าข่ายที่จะขอกู้ในโครงการนี้ได้ทั้งหมด ทำให้วงเงิน 9 พันล้านบาทดังกล่าวหมดลงอย่างรวดเร็วประมาณ 3 วันเท่านั้น
สำหรับความคืบหน้าของการปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีสลิปเงินเดือนนั้น หลังจากที่คณะกรรมการของธนาคารพิจารณาอนุมัติแล้ว เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เสนอเรื่องมาที่กระทรวงการคลังแล้ว หลังจากที่กระทรวงการคลังเห็นชอบก็สามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อยให้มีบ้านของตัวเอง ในเงื่อนไขที่ผ่อนปรนมากกว่าปกติ โดยเฉพาะการให้กู้แก่ผู้มีอาชีพอิสระรับจ้างที่ไม่มีสลิปเงินเดือน แต่ต้องมีหลักฐานเงินเข้าออกบัญชีอย่างน้อย 4 เดือนจึงจะสามารถกู้เงินได้ เพราะกลุ่มนี้ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงกว่ากลุ่มที่มีรายได้ประจำ