โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา งวดนี้กำไร 566 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมงวดนี้ 3,722.3 ล้านบาท ผลดีจากโรงแรมใหม่ และการเติบโตของธุรกิจอาหาร ขณะที่มีกำไรขั้นต้นขยับเพิ่มเป็นเกือบ 59%
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 566 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 41% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมใหม่ และรายได้จากการเติบโตของธุรกิจอาหาร
สำหรับยอดขายไตรมาสนี้ CENTEL ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 3,722.3 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1 ปี 54 บริษัทมีรายได้ 2,999.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 723.2 ล้านบาท หรือ 24.1% และไตรมาสนี้ บริษัทมีต้นทุนขาย 1,502.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 1,203.0 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 58.5%
โดยในไตรมาส 1 ปี 55 บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA 1,049.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 191.0 ล้านบาทหรือ 22.3% โดยมีสัดส่วน EBITDA ต่อรายได้รวมเท่ากับ 28.2% ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งเท่ากับ 28.6%
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบโดยรวมต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มบริษัทได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เช่น การเจรจากับผู้ขาย การใช้สาธารณูปโภคอย่างประหยัด การบริหารและควบคุมค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีแผนในการหารายได้เพิ่ม โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจบริหารโรงแรมให้มากขึ้น ในส่วนของธุรกิจอาหาร ก็ยังคงเน้นกลยุทธ์ในการขยายสาขา เพิ่มแบรนด์ธุรกิจใหม่ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL แจ้งผลงานไตรมาสแรกปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 566 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 165 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 41% เนื่องจากรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมใหม่ และรายได้จากการเติบโตของธุรกิจอาหาร
สำหรับยอดขายไตรมาสนี้ CENTEL ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 3,722.3 ล้านบาท ขณะไตรมาส 1 ปี 54 บริษัทมีรายได้ 2,999.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 723.2 ล้านบาท หรือ 24.1% และไตรมาสนี้ บริษัทมีต้นทุนขาย 1,502.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 1,203.0 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 58.5%
โดยในไตรมาส 1 ปี 55 บริษัทและบริษัทย่อยมี EBITDA 1,049.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 191.0 ล้านบาทหรือ 22.3% โดยมีสัดส่วน EBITDA ต่อรายได้รวมเท่ากับ 28.2% ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งเท่ากับ 28.6%
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบโดยรวมต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มบริษัทได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เช่น การเจรจากับผู้ขาย การใช้สาธารณูปโภคอย่างประหยัด การบริหารและควบคุมค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีแผนในการหารายได้เพิ่ม โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจบริหารโรงแรมให้มากขึ้น ในส่วนของธุรกิจอาหาร ก็ยังคงเน้นกลยุทธ์ในการขยายสาขา เพิ่มแบรนด์ธุรกิจใหม่ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง