หักปากกาเซียน
ตลาดหุ้นวันนี้ ปิดฉากลงอย่างพลิกความคาดหมาย เพราะทุกคนประเมินกันว่า ดัชนีคงไหลรูดตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่เปิดซื้อขายช่วงแรกลงไปเพียงประมาณ 8 จุด ก่อนดีดตัวขึ้น และปิดตลาดชนิดหักปากกาเซียน เพราะดัชนีกลายเป็นสีเขียวด้วยแรงขับเคลื่อนของหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,231.04 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,487 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 268 ล้านบาท
การที่ตลาดขึ้นสวนทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทรุดตัวลงหนักตั้งแต่วันศุกร์ ต่อเนื่องถึงวันจันทร์ เนื่องจากมีการประกาศผลประกอบการหุ้น บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส โดยกำไรไตรมาสแรกเติบโตสูง ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาเก็งกำไรจนราคาพุ่งแรง ดึงให้หุ้นอินทัชดีดตัวตาม และเป็นตัวที่พยุงให้ภาพรวมของตลาดไม่เกิดความผันผวนมากนัก ส่งผลจิตวิทยาการลงทุน เพราะเมื่อนักลงทุนเห็นว่า ตลาดที่ปรับฐานแรงจึงคลายความตื่นกลัว และไม่เทขายหุ้นทิ้ง ขณะที่นักลงทุนฝ่ายที่รอจังหวะซื้อเมื่อเห็นตลาดแข็งแกร่ง ไม่เกิดการปรับฐานแรงแน่ จึงมีความกล้าที่จะช้อนหุ้น แม้ราคาไม่ลงมาให้ซื้อตามที่หวังไว้ก็ตาม
แต่การที่ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาได้ เป็นเพราะหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่เป็นตัวผลักดันเท่านั้น และเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว โดยปัจจัยแวดล้อมยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังวุ่นวาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงผู้นำหลายประเทศในยุโรป ความวิตกกังวลต่อการแก้ปัญหาหนี้ยุโป นอกจากนั้น ตลาดหุ้นทั้งยุโรป และสหรัฐฯ ยังทรุดอยู่ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ลงมาระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาทองคำที่ดิ่งลงเกือบหลุด 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว
แนวโน้มตลาดระยะสั้นยังน่าห่วงอยู่ และพร้อมจะผกผันตลอดเวลา จนนักวิเคราะห์เน้นคำแนะนำไปทางขายทำกำไรหากหุ้นขยับตัวต่อ โดยไม่มีเสียงเชียร์ให้ซื้อหุ้นเท่ไหร่ เพราะราคาหุ้นขึ้นมาสู่ระดับที่มีความเสี่ยงสูง และไม่น่าจะผ่านทะลุ 1,250 จุดไปได้ในรอบนี้
ตลาดหุ้นวันนี้ ปิดฉากลงอย่างพลิกความคาดหมาย เพราะทุกคนประเมินกันว่า ดัชนีคงไหลรูดตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่เปิดซื้อขายช่วงแรกลงไปเพียงประมาณ 8 จุด ก่อนดีดตัวขึ้น และปิดตลาดชนิดหักปากกาเซียน เพราะดัชนีกลายเป็นสีเขียวด้วยแรงขับเคลื่อนของหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่
ดัชนีวันนี้ปิดที่ 1,231.04 จุด เพิ่มขึ้น 3.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,487 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 268 ล้านบาท
การที่ตลาดขึ้นสวนทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ทรุดตัวลงหนักตั้งแต่วันศุกร์ ต่อเนื่องถึงวันจันทร์ เนื่องจากมีการประกาศผลประกอบการหุ้น บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส โดยกำไรไตรมาสแรกเติบโตสูง ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาเก็งกำไรจนราคาพุ่งแรง ดึงให้หุ้นอินทัชดีดตัวตาม และเป็นตัวที่พยุงให้ภาพรวมของตลาดไม่เกิดความผันผวนมากนัก ส่งผลจิตวิทยาการลงทุน เพราะเมื่อนักลงทุนเห็นว่า ตลาดที่ปรับฐานแรงจึงคลายความตื่นกลัว และไม่เทขายหุ้นทิ้ง ขณะที่นักลงทุนฝ่ายที่รอจังหวะซื้อเมื่อเห็นตลาดแข็งแกร่ง ไม่เกิดการปรับฐานแรงแน่ จึงมีความกล้าที่จะช้อนหุ้น แม้ราคาไม่ลงมาให้ซื้อตามที่หวังไว้ก็ตาม
แต่การที่ดัชนีกระเตื้องขึ้นมาได้ เป็นเพราะหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดใหญ่เป็นตัวผลักดันเท่านั้น และเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว โดยปัจจัยแวดล้อมยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังวุ่นวาย ทั้งการเปลี่ยนแปลงผู้นำหลายประเทศในยุโรป ความวิตกกังวลต่อการแก้ปัญหาหนี้ยุโป นอกจากนั้น ตลาดหุ้นทั้งยุโรป และสหรัฐฯ ยังทรุดอยู่ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่ลงมาระดับ 106 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาทองคำที่ดิ่งลงเกือบหลุด 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว
แนวโน้มตลาดระยะสั้นยังน่าห่วงอยู่ และพร้อมจะผกผันตลอดเวลา จนนักวิเคราะห์เน้นคำแนะนำไปทางขายทำกำไรหากหุ้นขยับตัวต่อ โดยไม่มีเสียงเชียร์ให้ซื้อหุ้นเท่ไหร่ เพราะราคาหุ้นขึ้นมาสู่ระดับที่มีความเสี่ยงสูง และไม่น่าจะผ่านทะลุ 1,250 จุดไปได้ในรอบนี้