xs
xsm
sm
md
lg

ทองเนื้อเก้า....ทองคำเนื้อบริสุทธิ์ (วายแอลจี)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประเทศไทยในสมัยโบราณได้รับการขนานนามว่า สุวรรณภูมิ ซึ่งส่วนหนึ่งย่อมมาจากวิถีการดำเนินชีวิตของคนสมัยนั้นที่ให้ความสำคัญกับทองคำ ทั้งนำมาใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่งของเจ้านายชั้นสูง และในทางพระพุทธศาสนาก็นำมาใช้ในการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งตัวอาคารสถานที่ หรือแม้กระทั่งพระพุทธรูปก็ตาม

เนื่องจากความผูกพันใกล้ชิดกับทองคำมาช้านาน ทำให้เป็นการยากที่จะระบุเวลาได้ว่าทองคำได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่สิ่งที่บอกได้แน่ชัดว่าในสมัยก่อนนั้นประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ของทองคำไม่ด้อยกว่าชาติใด ซึ่งถ้าเทียบเป็นปริมาณทองคำในประเทศนั้นอาจจะเทียบไม่ได้ เนื่องจากประเทศไทยมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับประเทศที่มีชื่อเสียงในด้านทองคำ อย่างสหรัฐอเมริกา หรือจะเป็นแอฟริกา

แต่ในด้านคุณภาพแล้ว สามารถการันตีได้ว่าทองของประเทศไทยนั้นเป็นทองที่มีเนื้อความบริสุทธิ์ไม่ได้ยิ่งหย่อนจากประเทศยักษ์ใหญ่ในวงการขุดทองเลย ซึ่งทองที่จะกล่าวถึงนั้น ก็คือ ทองเนื้อเก้า หรือทองนพคุณ โดยที่มาของชื่อนี้ก็มาจากการให้ราคาค่างวดนั่นเอง

เนื่องจากว่าทองคำนั้นมีหลายคุณภาพ หลายความบริสุทธิ์ และเพื่อให้ง่ายต่อการแยกประเภททองคำประเภทต่างๆ ก็ใช้การตีราคาเข้ามาช่วยแบ่งนั่นเอง ดังนั้นทองคำของไทยก็สามารถแบ่งได้หลักๆ เป็น ทองเนื้อสี่ ทองเนื้อห้า ทองเนื้อหก ทองเนื้อเจ็ด ทองเนื้อแปด และทองเนื้อเก้า โดยทองเนื้อสี่จะเป็นทองที่คุณภาพด้อยที่สุด ซึ่งหมายถึงทองคำน้ำหนักหนึ่งบาททองคำแต่มีมูลค่าการซื้อขายเพียงสี่บาทเท่านั้น ขณะที่ทองเนื้อเก้ามีมูลค่าถึงเก้าบาทเลยทีเดียว

ทองเนื้อเก้าได้รับการกล่าวขานว่าเป็นทองคำที่มีเนื้อความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกับทองคำบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยความบริสุทธิ์ของเนื้อทองนั้นก็วัดจากการที่ตัวเนื้อทองได้มีการผสมของโลหะชนิดอื่นมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสามารถสะท้อนได้จากสีของเนื้อทอง ถ้ามีความบริสุทธิ์มากก็ย่อมจะมีสีเหลืองอร่าม ครั้นแล้วทองเนื้อเก้าของเราก็มีสีเหลืองอร่ามเช่นกัน โดยแหล่งทองเนื้อเก้าที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยนั้นมีแหล่งที่มาจากเมืองหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งก็คือ บางสะพาน จึงเรียกทองเนื้อเก้านี้ว่า ทองบางสะพาน

ชื่อเสียงของทองบางสะพานได้เป็นที่รู้จักกันมานาน ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จากการที่เจ้าเมืองได้นำทองคำมาถวายและหลังจากนั้นก็ทรงโปรดให้มีการขุดทองในบริเวณนั้น ซึ่งเชื่อกันว่าเวลาแค่ปีเศษก็สามารถได้ทองคำถึง 90 ชั่ง หรือคิดเป็น 3,600 บาททองคำเลยทีเดียว (ในปัจจุบันราคาทองคำเนื้อเก้าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท

ดังนั้นมูลค่าที่ขุดทองได้นั้นมีค่าสูงถึง 90 ล้านบาทเลยทีเดียว) แต่จากที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นแล้วว่าทองคำได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางพระพุทธศาสนาของไทย ครั้นแล้วทองคำที่ขุดได้ในครั้งนั้น จึงได้นำไปหุ้มยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี ซึ่งเป็นทองแห่งพระราชศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาโดยแท้ แต่ในปัจจุบันร่องรอยความเจริญดังกล่าวได้สูญสลายไปตั้งแต่สงครามเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จากการที่โจรจีนได้มีการหลอมทองที่หุ้มโบราณสถานดังกล่าวแล้วขโมยไป

นอกจากนั้น ทองเนื้อเก้าจากดินแดนแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลังสำหรับผู้ที่นิยมชมชอบพระเครื่อง เนื่องจากว่าทองดังกล่าวมีแสงทองสุกสกาว และในการขุดทองเนื้อเก้าก็ไม่สามารถทำได้ง่ายนัก ประกอบกับในปี 2548 ได้เกิดน้ำป่าถล่มที่เมืองบางสะพานและได้พัดพาเศษทองคำที่อยู่ตามผืนแผ่นดินไปตามที่ต่างๆ ในบริเวณนั้นด้วย ยิ่งทำให้ความเชื่อในทองเนื้อเก้าเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและเป็นที่หมายตาจากนักสะสมของขลังมากมาย

โดยเชื่อกันว่าผู้ที่ครอบครองจะสามารถรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง รวมทั้งสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจได้ด้วย

แม้ว่าในปัจจุบันทองเนื้อเก้าแทบจะไม่สามารถขุดหาได้เหมือนอย่างในสมัยก่อน แต่ด้วยคุณค่าและความงดงามของทองเนื้อเก้าก็ยังเป็นที่กล่าวขานถึงทุกวันนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้ทองเนื้อเก้าได้เป็นที่รู้จักอยู่ทุกวันนี้ ก็คือความศรัทธาและความเชื่อของผู้คนทั้งในอดีตและปัจจุบันนั่นเอง

สำหรับการลงทุนในทองคำนั้น แค่ความเชื่อก็ไม่สามารถให้นักลงทุนทั้งหลายได้กำไรจากการลงทุนได้ เนื่องจากความงอกงามในผลกำไรได้ถูกกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งของประเทศต่างๆ ดังนั้นการลงทุนทองคำที่ดีจำเป็นต้องมีสติและตระหนักความเป็นไปของกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งยอมที่จะตัดขาดทุนในจุดที่เหมาะสมด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น