ราชธานีลิสซิ่งออกหุ้นกู้ 6 พันล้าน อายุ 2, 3และ 4 ปี ดอกเบี้ย 4.90%, 5.20% และ 5.50% ขาย 24 เมษายนนี้ พร้อมขออนุมัติออกอีก 2 หมื่นล้าน คาดไตรมาส 3 ออกล็อตสอง
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI) เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการจำหน่ายหุ้นกู้และการออกหุ้นกู้ ซึ่งนับว่าเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยจะจัดออกหุ้นกู้จำนวน 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 4.90% จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.20% และชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ย 5.50% จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดมูลค่าจัดออกรวมไม่เกิน 6,000 ล้านบาท กำหนดการจองขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปหรือผู้ลงทุนสถาบันในวันที่ 24 เมษายนที่จะถึงนี้
โดยบริษัททริสเรทติ้งได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ BBB+ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา
“การออกหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้เงินกู้เก่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารลดลง 0.50% และที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาทจะใช้รองรับการปล่อยกู้”
นอกจากนี้ บริษัทจะเสนอผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้ประจำปี 2555 อีก 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงาน โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จะออกหุ้นกู้เป็นล็อตที่ 2
นายวิรัตน์ ชินประพินพร ประธานกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI) เปิดเผยว่า ในขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการจำหน่ายหุ้นกู้และการออกหุ้นกู้ ซึ่งนับว่าเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท โดยจะจัดออกหุ้นกู้จำนวน 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 4.90% จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท ดอกเบี้ย 5.20% และชุดที่ 3 อายุ 4 ปี ดอกเบี้ย 5.50% จำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านบาท หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุดมูลค่าจัดออกรวมไม่เกิน 6,000 ล้านบาท กำหนดการจองขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปหรือผู้ลงทุนสถาบันในวันที่ 24 เมษายนที่จะถึงนี้
โดยบริษัททริสเรทติ้งได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ BBB+ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา
“การออกหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้เงินกู้เก่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารลดลง 0.50% และที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาทจะใช้รองรับการปล่อยกู้”
นอกจากนี้ บริษัทจะเสนอผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นกู้ประจำปี 2555 อีก 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงาน โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จะออกหุ้นกู้เป็นล็อตที่ 2