สศค.ปรับเพิ่มคาดการณ์ ศก.ปี 55 แนวโน้ม “จีดีพี” เติบโตได้ 5.5% จากเดิมที่คาดไว้ 5.0% พร้อมระบุภาคธุรกิจเกือบทุกภาคส่วนเริ่มฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาสแรก
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจปี 2555 โดยประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะขยายตัวในระดับ 5.5% สูงจากเดิมคาดไว้ที่ 5.0% เนื่องจากเศรษฐกิจเกือบทุกภาคฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาสแรก หลังจากเกิดภาวะอุทกภัยครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี 2554
สศค.คาดว่า ในปี 2555 อุปสงค์ภายในประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย จากความจำเป็นในการบริโภคสินค้าเพื่อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย และการลงทุนเพื่อฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนและเครื่องมือเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมประกอบกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการและโครงการจำนำข้าวเปลือก
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกคาดว่าจะชะลอลงตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ยังรุนแรง และแนวโน้มการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่เริ่มชะลอตัวลง
สศค.ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลง โดยคาดว่าในปี 2555 อุปสงค์ภายในประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 4.5% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 4.0-5.0% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้า เนื่องจากความจำเป็นในการบริโภคสินค้าเพื่อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ประกอบกับนโยบายของภาครัฐในการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น มาตรการปรับเพิ่มรายได้แรงงานรายวันและเงินเดือนข้าราชการและโครงการจำนำข้าวเปลือก
การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 11.9% โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 10.9-12.9% เร่งขึ้นตามความจำเป็นในการฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนและเครื่องมือเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย ประกอบกับคาดว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมบางสาขา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ยังคงได้รับคำสั่งซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ จึงมีแนวโน้มเร่งฟื้นฟูเพื่อกลับมาทำการผลิตอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 13.5% ตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อไปอีกระยะหนึ่งโดยเฉพาะปัญหาหนี้สาธารณะในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ยังรุนแรง และแนวโน้มการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนที่เริ่มชะลอตัวลง
สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐในปี 2555 คาดว่าการบริโภคภาครัฐจะขยายตัว 4.5% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้า ตามการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปีของรัฐบาลในปี 2555 ที่คาดว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งที่ 12.1% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากแผนการกู้เงินจากพระราชกำหนดกู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2555
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6% ต่อปี ช่วงคาดการณ์ที่ 3.1-4.1% ชะลอลงเล็กน้อยจากปี 2554 เป็นผลจากความเปราะบางของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของไทยโดยเฉพาะเศรษฐกิจกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่คาดว่าจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกชะลอลง ประกอบกับแนวโน้มการชะลอตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก ส่วนอัตราการว่างงานคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.6% ของกำลังแรงงานรวม โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5–0.7% ของกำลังแรงงานรวม
เสถียรภาพภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะขาดดุลที่ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.4-0.4% ของ GDP เนื่องจากดุลการค้าที่คาดว่าจะเกินดุลลดลงมาอยู่ที่ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีช่วงคาดการณ์ที่ 6.3–8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมูลค่าสินค้านำเข้าที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราเร่งกว่ามูลค่าสินค้าส่งออก คาดว่ามูลค่านำเข้าสินค้าจะขยายตัว 23.3% ช่วงคาดการณ์ที่ 22.3–24.3% ขณะที่มูลค่าส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัว 13.5% ช่วงคาดการณ์ที่ 12.5–14.5%