บิ๊ก "แสนสิริ" โชว์ศักยภาพขาใหญ่ อสังหาฯ ตัวจริง ลั่นปรับเป้ายอดขาย Q1/55 เพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้าน "เศรษฐา" ยันเป็นยอดสูงที่สุดในประวัติการณ์สร้างยอดขายในไตรมาสเดียว เตรียมเปิดอีก 3 โครงการใหม่ พร้อมปูพรมทั่วประเทศ
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ายอดขายในไตรมาส 1/55 จากเดิมที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท เป็น 11,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงที่สุดในประวัติการณ์การตั้งเป้าหมายยอดขายต่อไตรมาสของบริษัท โดยยอดขายรวมของบริษัทในขณะนี้ (วันที่ 1 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลจากการจัดงาน Sansiri Life Comes Home เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ คิดเป็นมูลค่าโครงการขายรวมกว่า 3,700 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายยอดขายรวมภายในงานเดิมซึ่งตั้งไว้ 2,200 ล้านบาท โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุดยังคงเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ โครงการอื่นๆ ของบริษัทก็ได้รับความสนใจที่ดี เช่น การปิดการขายโครงการดีคอนโด กะทู้ จ.ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาทและการปิดการขายคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม โครงการ HQ Thonglor มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ภายใน 1 วัน
“การจัดงาน Sansiri Life Comes Home ครั้งนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์กระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจของลูกค้าที่มีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่ง มีการรับที่ดีจากลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม เดอะเบส พระราม 9 - รามคำแหง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 80%"
อย่างไรก็ตามแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มแสนสิริ ช่วงไตรมาสที่ 1/2555 ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,700 ล้านบาท และจากการที่บริษัทประสบความสำเร็จด้านยอดขายในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมียอดขายล่วงหน้าที่รอรับรู้รายได้ในอีก 1-3 ปี สูงถึงประมาณ 41,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายล่วงหน้าที่สูงที่สุดในระบบในขณะนี้ และจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งให้กับบริษัทเป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม กลุ่มแสนสิริมีความพร้อมที่จะรุกพัฒนาโครงการคอนโดในรูปแบบต่างๆ ทั่วประเทศ โดยนอกจากโครงการที่เขาเต่าที่เปิดขายครั้งแรกในงานไลฟ์ คัมส์ โฮม รวมทั้งโครงการที่เขาใหญ่ ที่เปิดให้จองสิทธิ์และกำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนแล้ว เรายังวางแผนขยายไปสู่หัวเมืองใหญ่ในภาคเหนือ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง การศึกษาความเป็นไปได้
"เราเชื่อมั่นว่าคอนโดมิเนียมจาก แสนสิริ จะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด จนสามารถทำให้ยอดรับรู้รายได้ของแสนสิริในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 16 โครงการทั่วประเทศได้ เพราะจากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังในการเลือกโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้การยอมรับในด้านการบริหารจัดการภายในโครงการแม้แต่ในช่วงอุทกภัยจะเป็นที่ต้องการสูงยิ่งขึ้น"
นอกจากนี้ ยังรวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคจะเริ่มเปลี่ยนไป เรามองว่าคอนโดมิเนียมเริ่มกลายเป็นบ้านหลังแรก ที่คนปัจจุบันจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าบ้านในชานเมืองที่เสี่ยงต่อ ปัญหาอุทกภัย นอกจากนั้น ผู้บริโภคที่มีบ้านอยู่แล้วก็เริ่มมีความต้องการซื้อบ้านหลังที่สองทั้งในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด เช่น หัวหินแ ละเขาใหญ่มากขึ้นด้วย