ผู้ว่าแบงก์ชาติเผย "ธีระชัย" รับปากจำกัดขอบเขตธุรกิจแบงก์รัฐ แลกกับการไม่ต้องนำส่งเงินชำระหนี้กองทุนฟื้นฟู ไม่ปล่อยกู้รายใหญ่แข่งกับแบงก์พาณิชย์ ช่วยลดแข่งขันการระดมเงินฝาก ยอมรับนายแบงก์กังวลเงินจากตั๋วบี/อีจะไหลเข้าสู่แบงก์รัฐ หลังเกิดความเหลื่อมล้ำการระดมเงินฝาก
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงการเก็บค่าธรรมเนียมสถาบันการเงินรัฐระหว่างตนกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรมว.คลังได้แสดงความคิดเห็นว่าการจัดเก็บเงินนำส่งกับสถาบันการเงินรัฐคงทำไม่ได้ แต่รับปากจะพยายามกำกับดูแลขอบเขตการทำธุรกิจของสถาบันการเงินรัฐแทน โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่ ถือเป็นผลทางอ้อมว่าจะไม่ระดมเงินฝากมากจนมาแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ไทย
“สถาบันการเงินรัฐมีวัตถุประสงค์พิเศษในการจัดตั้ง ส่วนเรื่องการธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใช้มูลค่าในการปล่อยกู้ค่อนข้างสูงคงไม่เข้ามาทำ ซึ่งหากดูแลในส่วนนี้ได้ โดยการกำกับดูแลการขยายตัวสินทรัพย์ของสถาบันการเงินของรัฐแทนการเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝาก ทำให้ความจำเป็นของธนาคารรัฐในการเร่งระดมเงินฝากก็จะน้อยลง”
นอกจากนี้ ตอนนี้ทางผู้บริหารธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีความเป็นห่วงว่าเงินในส่วนของตั๋วแลกเงิน(บี/อี)ของธนาคารพาณิชย์จะไหลไปฝากเงินกับสถาบันการเงินรัฐมากขึ้น เนื่องจากความแตกต่างของเงินนำส่ง ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายแต่ละปีในอัตรา 0.4%ของฐานเงินฝาก แต่สถาบันการเงินรัฐไม่ต้องจ่ายในส่วนนี้
พร้อมทั้งการคุ้มครองเงินฝากลดลงในส่วนของธนาคารพาณิชย์เหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชี สำหรับปีนี้ แต่สถาบันการเงินของรัฐได้การคุ้มครองเต็มจำนวนจากรัฐบาล ทำให้อัตราผลตอบแทนและต้นทุนการระดมทุนต่างกันอย่างชัดเจน จึงต้องการให้รัฐเข้ามาดูแลส่วนนี้เช่นกัน
**เปิดตัวบริการICASเช็ครูปแบบใหม่**
เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ธปท.และธนาคารสมาชิกศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ได้เปิดตัวระบบการหักบัญชีด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค(ICAS) โดยจะเริ่มให้บริการลูกค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.นี้เป็นต้นไปและภายใน 3 เดือนนี้จะขยายการใช้งานให้ครบทุกสาขาและจะเริ่มขยายไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัดได้ไม่เกินปี 56 นี้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เช็คให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติการของธนาคาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในลดระยะเวลาการเรียกเก็บเงินตามเช็คแบบรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ระบบ ICAS จะมีลักษณะเด่น 3 อย่าง ได้แก่ 1.ใช้ภาพเช็คที่ส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในการพิจารณาตัดจ่ายเงินแทนการส่งเช็คต้นฉบับให้แก่ธนาคารเจ้าของเช็ค ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งเช็คทั้งระบบปีละ 600 ล้านบาท 2.ใช้เวลาเรียกเก็บเงินตามเช็ค 1 วันทำการทั่วประเทศ จากเดิม 3-5 วันทำการ ถือเป็นการช่วยให้มีเงินหมุนเวียนนะรบบเศรษฐกิจได้คล่องตัวมากขึ้นอีกวันละประมาณ 1,640 ล้านบาท พร้อมทั้งลดค่าเสียโอกาสทางการเงินให้แก่ประชาชนได้ปีละ 100 ล้านบาท และ3.ระบบ ICAS นำมาใช้อ้างอิงในกระบวนการทางกฎหมายได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งที่ต้องเข้าสู่กระบวนการศาล ถือเป็นโครงการนำร่องในการบังคับใช้กฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงการเก็บค่าธรรมเนียมสถาบันการเงินรัฐระหว่างตนกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรมว.คลังได้แสดงความคิดเห็นว่าการจัดเก็บเงินนำส่งกับสถาบันการเงินรัฐคงทำไม่ได้ แต่รับปากจะพยายามกำกับดูแลขอบเขตการทำธุรกิจของสถาบันการเงินรัฐแทน โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่ ถือเป็นผลทางอ้อมว่าจะไม่ระดมเงินฝากมากจนมาแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ไทย
“สถาบันการเงินรัฐมีวัตถุประสงค์พิเศษในการจัดตั้ง ส่วนเรื่องการธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใช้มูลค่าในการปล่อยกู้ค่อนข้างสูงคงไม่เข้ามาทำ ซึ่งหากดูแลในส่วนนี้ได้ โดยการกำกับดูแลการขยายตัวสินทรัพย์ของสถาบันการเงินของรัฐแทนการเก็บค่าธรรมเนียมเงินฝาก ทำให้ความจำเป็นของธนาคารรัฐในการเร่งระดมเงินฝากก็จะน้อยลง”
นอกจากนี้ ตอนนี้ทางผู้บริหารธนาคารพาณิชย์หลายแห่งมีความเป็นห่วงว่าเงินในส่วนของตั๋วแลกเงิน(บี/อี)ของธนาคารพาณิชย์จะไหลไปฝากเงินกับสถาบันการเงินรัฐมากขึ้น เนื่องจากความแตกต่างของเงินนำส่ง ซึ่งธนาคารพาณิชย์ต้องจ่ายแต่ละปีในอัตรา 0.4%ของฐานเงินฝาก แต่สถาบันการเงินรัฐไม่ต้องจ่ายในส่วนนี้
พร้อมทั้งการคุ้มครองเงินฝากลดลงในส่วนของธนาคารพาณิชย์เหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชี สำหรับปีนี้ แต่สถาบันการเงินของรัฐได้การคุ้มครองเต็มจำนวนจากรัฐบาล ทำให้อัตราผลตอบแทนและต้นทุนการระดมทุนต่างกันอย่างชัดเจน จึงต้องการให้รัฐเข้ามาดูแลส่วนนี้เช่นกัน
**เปิดตัวบริการICASเช็ครูปแบบใหม่**
เมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ธปท.และธนาคารสมาชิกศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ได้เปิดตัวระบบการหักบัญชีด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค(ICAS) โดยจะเริ่มให้บริการลูกค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.นี้เป็นต้นไปและภายใน 3 เดือนนี้จะขยายการใช้งานให้ครบทุกสาขาและจะเริ่มขยายไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัดได้ไม่เกินปี 56 นี้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เช็คให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติการของธนาคาร พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในลดระยะเวลาการเรียกเก็บเงินตามเช็คแบบรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ระบบ ICAS จะมีลักษณะเด่น 3 อย่าง ได้แก่ 1.ใช้ภาพเช็คที่ส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ในการพิจารณาตัดจ่ายเงินแทนการส่งเช็คต้นฉบับให้แก่ธนาคารเจ้าของเช็ค ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งเช็คทั้งระบบปีละ 600 ล้านบาท 2.ใช้เวลาเรียกเก็บเงินตามเช็ค 1 วันทำการทั่วประเทศ จากเดิม 3-5 วันทำการ ถือเป็นการช่วยให้มีเงินหมุนเวียนนะรบบเศรษฐกิจได้คล่องตัวมากขึ้นอีกวันละประมาณ 1,640 ล้านบาท พร้อมทั้งลดค่าเสียโอกาสทางการเงินให้แก่ประชาชนได้ปีละ 100 ล้านบาท และ3.ระบบ ICAS นำมาใช้อ้างอิงในกระบวนการทางกฎหมายได้ เมื่อเกิดความขัดแย้งที่ต้องเข้าสู่กระบวนการศาล ถือเป็นโครงการนำร่องในการบังคับใช้กฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
