ASTVผู้จัดการรายวัน- โพลสำรวจผลกระทบบจ.น้ำท่วม ส่งผลรายได้หดเฉลี่ย 15% ของรายได้รวม หรือเฉลี่ยบริษัทละ 559 ล้านบาท คาดใช้เงินฟื้นฟูบริษัทละ 87 ล้านบาท จากกระแสเงินสด พร้อมเสนอรัฐบาลผลักดันโครงการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต -ลดภาษีนิติบุคคลตามแผน -ขอรัฐผลักดันการรับประกันภัยน้ำท่วมในอัตราดอกเบี้ยเหมาะสม “สมบัติ”คาดกำไรบจ.ปีหน้าหาย 2-3 หมื่นล้านบาท จากปัญหาน้ำท่วม เตรียมสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ดัชนีหุ้นไทย เศรษฐกิจ กำไรบจ.ปีนี้-หน้า คาดเสร็จสิ้นเดือนนี้
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และ ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนตอบแบบสอบถามจำนวน 198 บริษัท ซึ่งมีขนาดสินทรัพย์ตั้งแต่ 300 ล้านบาท ถึง 3 แสนล้านบาท หรือมูลค่าสินทรัพย์รวม 6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60 %ของจีดีพี โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบด้านลบคิดเป็น 90% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม โดยได้รับผลกระทบทางตรง 38% มีผู้ตอบไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 10% อีก 52% ได้รับผลกระทบทางอ้อม
ทั้งนี้มีบจ.ตอบว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรงจำนวน 75 บริษัท ซึ่งรายได้ถูกกกระทบจากธุรกิจหยุดชะงักจำนวน 53 บริษัท เฉลี่ยบริษัทละ 559 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 2.96 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็น15% ของรายได้รวม ส่วนบริษัทที่ได้รับผลกระทบเรื่องสินค้าคงคลัง จำนวน 30 บริษัท ได้รับผลกระทบเฉลี่ยบริษัทละ 121 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% ของสินทรัพย์รวม โดยสินทรัพย์ถาวร ได้รับผลกระทบจำน้ำท่วมจำนวน 32 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของทั้งหมด
สำหรับการทำประกันคุ้มครองความเสียหายของบริษัทที่ได้รับผลกระทบทางตรง 75 บริษัท นั้น 90% ได้มีการทำประกันความเสียหาย โดยทำประกันความเสียหาย 90% ของมูลค่าความเสียหาย และ มีความมั่นใจประมาณ 90% ว่าทางประกันจะมีการจ่ายความเสียหาย
นายสมบัติ กล่าวว่า ผลกระทบต่อรายได้ของบจ.ในไตรมาส4/54 นั้นมีผู้ตอบได้รับผลกระทบต่อรายได้น้อยกว่า 20% จำนวน 55% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 17% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อราไยด้ 20-40% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 16% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้มากกว่า 40% ขณะที่ผลกระทบต่อผลประกอบการปี 2555 นั้นส่วนใหญ่ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้น้อยกว่า 10% คิดเป็น 61% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม 20% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้ 10-30% อรก 16% ตอลว่าไม่ได้รับผลกระทบ ที่เหลือ 3% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้มากกว่า 30%
ทั้งนี้บริษัทที่ต้องใช้เม็ดดเงินเพื่อฟื้นฟูจากน้ำท่วมมีจำนวน 82 บริษัท จากจำนวนบริษัทที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 198 บริษัท โดยเงินที่จะมาใช้ฟื้นฟูนั้น 57 บริษัท ตอบว่าจะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัท คาดว่าจะใช้เงินฟื้นฟูกิจการเฉลี่ยบริษัทละ 87 ล้านบาท และ หลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย บริษัทจดทะเบียน 54% ประเมินว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องเล็กน้อย หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย ขระที่มีบจ. 19 บริษัท คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องในทางบวก ซึ่งบริษัทจดทะเบียน 88% ระบว่จะไม่มีการลดพลังงานหลังจากน้ำท่วม
“ส่วนตัวคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งปี 2555 คาดว่าจะลดลงไปจำนวน 2-3 หมื่นล้านบาท จากประมาณการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากปัญหาน้ำท่วม ขณะนี้สมาคมนักวิเคราะห์เตรียมสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์เรื่องดัชนีตลาดหุ้นไทย กำไรบจ. สิ้นปี และปีคาดเสร้จภายในเดือนนี้.”นายสมบัติ กล่าว
สำหรับข้อเสนอแนะของบจ.ต่อภาครัฐ นั้น ส่วนใหญ่ 85%ต้องการให้รัฐบาลต้องผลักดันโครงการป้องกันปัญหาน้ำท่วมรุนแรงในอนาคต 73% ต้องการให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเหลือ 23% จาก 30% ในปี 2555 และ เหลือ 20% ในปี 2556 57% ต้องการให้มีการผลักดันให้มีการรับประกันภัยที่คอรบคลุมภาวะน้ำท่วมต่อไป ในอัตราเบี้ยประกันที่ไม่สูงขึ้นมาก 55% ขอให้เลื่อนเวลาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 ล้านบาท 49% เลือนเวลาการขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท 39% ขอให้ค่าสิน
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจผลกระทบจากเหตุอุทกภัย และ ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนตอบแบบสอบถามจำนวน 198 บริษัท ซึ่งมีขนาดสินทรัพย์ตั้งแต่ 300 ล้านบาท ถึง 3 แสนล้านบาท หรือมูลค่าสินทรัพย์รวม 6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60 %ของจีดีพี โดยบริษัทที่ได้รับผลกระทบด้านลบคิดเป็น 90% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม โดยได้รับผลกระทบทางตรง 38% มีผู้ตอบไม่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 10% อีก 52% ได้รับผลกระทบทางอ้อม
ทั้งนี้มีบจ.ตอบว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยตรงจำนวน 75 บริษัท ซึ่งรายได้ถูกกกระทบจากธุรกิจหยุดชะงักจำนวน 53 บริษัท เฉลี่ยบริษัทละ 559 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวม 2.96 หมื่นล้านบาท หรือ คิดเป็น15% ของรายได้รวม ส่วนบริษัทที่ได้รับผลกระทบเรื่องสินค้าคงคลัง จำนวน 30 บริษัท ได้รับผลกระทบเฉลี่ยบริษัทละ 121 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% ของสินทรัพย์รวม โดยสินทรัพย์ถาวร ได้รับผลกระทบจำน้ำท่วมจำนวน 32 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของทั้งหมด
สำหรับการทำประกันคุ้มครองความเสียหายของบริษัทที่ได้รับผลกระทบทางตรง 75 บริษัท นั้น 90% ได้มีการทำประกันความเสียหาย โดยทำประกันความเสียหาย 90% ของมูลค่าความเสียหาย และ มีความมั่นใจประมาณ 90% ว่าทางประกันจะมีการจ่ายความเสียหาย
นายสมบัติ กล่าวว่า ผลกระทบต่อรายได้ของบจ.ในไตรมาส4/54 นั้นมีผู้ตอบได้รับผลกระทบต่อรายได้น้อยกว่า 20% จำนวน 55% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 17% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อราไยด้ 20-40% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 16% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้มากกว่า 40% ขณะที่ผลกระทบต่อผลประกอบการปี 2555 นั้นส่วนใหญ่ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้น้อยกว่า 10% คิดเป็น 61% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถาม 20% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้ 10-30% อรก 16% ตอลว่าไม่ได้รับผลกระทบ ที่เหลือ 3% ตอบว่าได้รับผลกระทบต่อรายได้มากกว่า 30%
ทั้งนี้บริษัทที่ต้องใช้เม็ดดเงินเพื่อฟื้นฟูจากน้ำท่วมมีจำนวน 82 บริษัท จากจำนวนบริษัทที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 198 บริษัท โดยเงินที่จะมาใช้ฟื้นฟูนั้น 57 บริษัท ตอบว่าจะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัท คาดว่าจะใช้เงินฟื้นฟูกิจการเฉลี่ยบริษัทละ 87 ล้านบาท และ หลังจากน้ำท่วมคลี่คลาย บริษัทจดทะเบียน 54% ประเมินว่าธุรกิจจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องเล็กน้อย หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย ขระที่มีบจ. 19 บริษัท คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องในทางบวก ซึ่งบริษัทจดทะเบียน 88% ระบว่จะไม่มีการลดพลังงานหลังจากน้ำท่วม
“ส่วนตัวคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนทั้งปี 2555 คาดว่าจะลดลงไปจำนวน 2-3 หมื่นล้านบาท จากประมาณการที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จากปัญหาน้ำท่วม ขณะนี้สมาคมนักวิเคราะห์เตรียมสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์เรื่องดัชนีตลาดหุ้นไทย กำไรบจ. สิ้นปี และปีคาดเสร้จภายในเดือนนี้.”นายสมบัติ กล่าว
สำหรับข้อเสนอแนะของบจ.ต่อภาครัฐ นั้น ส่วนใหญ่ 85%ต้องการให้รัฐบาลต้องผลักดันโครงการป้องกันปัญหาน้ำท่วมรุนแรงในอนาคต 73% ต้องการให้ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเหลือ 23% จาก 30% ในปี 2555 และ เหลือ 20% ในปี 2556 57% ต้องการให้มีการผลักดันให้มีการรับประกันภัยที่คอรบคลุมภาวะน้ำท่วมต่อไป ในอัตราเบี้ยประกันที่ไม่สูงขึ้นมาก 55% ขอให้เลื่อนเวลาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 ล้านบาท 49% เลือนเวลาการขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 15,000 บาท 39% ขอให้ค่าสิน