ผู้บริหาร ธปท.ห่วงภาคธุรกิจอสังหาฯ หลังผู้ประกอบการยอมรับ ได้รับผลกระทบน้ำท่วมอย่างรุนแรง ยันพร้อมดูแลภาวะตลาด พร้อมนำข้อมูลใหม่มาวิเคราะห์ เล็งจับตาโครงการใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภคในทำเลที่น้ำท่วมขังนาน สมาคมฯ ชี้ “รังสิต-บางใหญ่” บ้านจัดสรร 1 แสนโครงการ 1 ล้านหลัง สะบักสะบอมที่สุด วอนเร่งกู้ให้ทัน 5 ธ.ค.หรืออย่างช้าสุดก่อนปีใหม่
นางสุชาดา กิระกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงภาพรวมด้านอสังหาริมทรัพย์หลังจากเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยระบุว่า ธปท. พร้อมติดตามดูแลภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างใกล้ชิด และนำข้อมูลใหม่ๆ มาวิเคราะห์ หลังผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ประเมินว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอลง หลังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่รุนแรง
นางสุชาดา กล่าวว่า แม้เหตุการณ์น้ำท่วมอาจทำให้คนที่อยู่อาศัยในแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาอยู่แนวสูง เช่น ห้องชุด คอนโดมิเนียม ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้นบ้าง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด ประกอบกับยังมีความเป็นไปได้ที่คนอาจจะมีสภาพคล่องน้อยลง ถือเป็นประเด็นที่ ธปท.ต้องปรับแนวคิดใหม่ เพื่อประเมินภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ชัดเจนมากขึ้น
นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.ติดตามดูแลภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังน้ำลด กลุ่มผู้ประกอบการจะมีโครงการใหม่ๆ ออกมาหรือไม่ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่อาจเปลี่ยนไปมาก จากที่เคยมองหาที่อยู่อาศัยแนวราบ อาจเปลี่ยนเป็นแนวสูงเพิ่มมากขึ้น
นายเรืองชัย รุจิระพัฒน์ กรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนประสานการทำงานกับรัฐบาลให้สามารถแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้น ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจะอยู่ในช่วงรังสิต และอำเภอบางใหญ่ โดยจากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีลูกบ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 100,000 โครงการ หรือกว่า 1 ล้านยูนิต โดยการเข้าไปช่วยเหลือต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้ผู้ที่ประสบภัยกลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้าน หรือจะให้เร่งด่วนจริงๆ ก็อยากให้เสร็จในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นี้