หลังน้ำลด ปชช. หลังแอ่น! ธปท.คาดใช้เงินกู้แสนล้านซ่อมแซมบ้าน

ธปท.เปิดข้อมูล 3 สมาคมอสังหาฯ คาด 2.4 ล้านครัวเรือนใน กทม. ได้รับผลกระทบน้ำท่วม หรือสัดส่วน 40% ได้รับกระทบแล้ว คาดใช้เงินฟื้นฟูกว่า 1 แสนล้านบาท

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ธปท.โดยคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน (กนส.) ได้ตระหนักถึงปัญหาผลกระทบน้ำท่วม ที่สร้างผลกระทบต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ทำให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย ตลอดจนโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ และที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้รับผลกระทบ จึงพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยขยายเวลาการบังคับใช้หลักเกณฑ์อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) ได้ไม่เกิน 95% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี หรือจากเดิมที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2555 เลื่อนไปบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2556

"เราเลื่อนการบังคับใช้ เพราะบ้านแนวราบกระทบพอสมควร การขยายเวลาน่าจะช่วยให้ยอดซื้อบ้านทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองที่โดยเฉลี่ยจะขยายตัวได้ประมาณ 12-13% ของสินเชื่อรวม ยังโตได้ในสัดส่วนเท่าเดิม ไม่ให้ซ้ำเติมการซื้อขายการซื้อบ้านแนวราบ ทีได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอยู่แล้วอีก แต่ไม่การใช้เกณฑ์LTVกับที่อย่อาศัยแนวสูง เช่น คอนโดมิเนียม ที่ให้ปล่อยได้ไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักปรกันไม่ได้มีการผ่อนผันอะไร เพราะสินเชื่อโตได้ดีเฉลี่ย 22-23% อยู่แล้ว และอีกอย่างได้บังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ปลายปีก่อน และคาดว่าแนวโน้มคอนโดน่าจะยังดีเพราะหลังน้ำท่วมบ้านคนน่าจะเลือกซื้อคอนโดมากขึ้น"

นอกจากนี้ ธปท.ยังผ่อนผันเกณฑ์การกำหนดน้ำหนักความเสี่ยง (Risk Weight) สำหรับสินเชื่อเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ห้มีน้ำหนักความเพียงเพียง 35% คือ ปล่อยสินเชื่อ 100 บาท ให้กันสำรองความเสี่ยงหนี้เสียเพียง 35% เท่านั้น จากปกติที่มีค่าความเสี่ยง 75% หรือปล่อยกู้ 100 บาทต้องกันสำรอง 75% โดยมีระยะเวลาผ่อนปรนไปจนถึง 31 ธ.ค. 2555 เพื่อให้การปล่อยสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้านให้กับผู้เดอดร้อนน้ำท่วมทำได้มากขึ้น เพราะธนาคารมีภาระกันสำรองน้อยลง ซึ่งการผ่อนปรนเกณฑ์ดังกล่าว จะช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของ ทั้งสถาบันการเงิน ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง

ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน กล่าวอีกว่า คาดว่าสินเชื่อกู้เพื่อซ่อมแซมในระยะต่อไปจะโตได้มากขึ้น เพราะหากดูจากครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในกรุงเทพฯ ที่มีสัดส่วนประมาณ 40% ของครัวเรือนผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 2.4 แสนครัวเรือน สมมุติกู้ครัวเรือนละ 50,000 - 1 แสนบาท แค่กู้ 10% ของคนที่กระทบก็คิดเป็นสินเชื่อวงเงิน 1 แสนกว่าล้านบาทแล้ว ยังไม่รวมครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบในปมณฑลอีกจำนวน เป็นไปตามความต้องการตลาดที่จะเพิ่มขึ้นหลังน้ำลดลง