ธปท.จัดสภาพคล่องเงินสดเพิ่ม 10% รองรับวันหยุดยาวในเดือน ธ.ค.ต่อเนื่องถึงปีใหม่ ระบุ ช่วงน้ำท่วมคนตุนเงินสดพุ่งถึง 20% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เตรียมสำรวจความเสียหายธนบัตรชำรุดหลังน้ำลด พร้อมสยบข่าวเลิกพิมพ์แบงก์ 50 บาท ยันไม่เป็นความจริง ลั่นมีแต่จะพิมพ์เพิ่มขึ้น ยอมรับในตลาดมีน้อย เพราะคนนิยมใช้แบงก์ 20 และแบงก์ร้อย
นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณสภาพคล่องเงินสดที่ธนาคารพาณิชย์เบิกไปเตรียมไว้รองรับความต้องการของประชาชนในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาเริ่มกลับมาฝากไว้ที่ ธปท.ในจำนวนมากขึ้น แต่คาดว่าปริมาณเงินสดเหล่านี้น่าจะถูกเบิกกลับไปใหม่ในช่วงเดือนธันวาคม 2554 ซึ่งมีวันหยุดยาวสิ้นปีหลายวัน ทั้งวันพ่อวันรัฐธรรมนูญ วันหยุดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ในช่วงปลายปีนี้ ธปท.ได้เตรียมสภาพคล่องเงินสดไว้รองรับเพิ่มขึ้นแล้ว 10% จากระดับปกติของเงินหมุนเวียนในระบบ เชื่อว่า จะมีเพียงพอรองรับการเบิกถอนสำหรับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
“ช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาหลายเดือนคนถือเงินสดตุนไว้เยอะ ถ้าดูตามการเบิกถอนเงินสดระดับปกติจะเพิ่มเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13% แต่ช่วงน้ำท่วมกินพื้นที่เพิ่มขึ้น การเบิกเงินสดเพิ่มสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ 20% แต่ล่าสุดเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 17% สรุปว่าน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้คนถือเงินสดเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4% จาก 13% เพิ่มเป็น 17% ถือว่าปกติ”
นายนพพร กล่าวว่า หลังน้ำลดแล้ว ธปท.อาจจะต้องมีการสำรวจความเสียหายของธนบัตรที่อาจจะเสียหายจากการเปียกน้ำ ซึ่งหากมีปริมาณมากจนทำให้เงินหมุนเวียนในระบบไม่เพียงพอ ก็จะได้เตรียมพิมพ์ธนบัตรออกมาชดเชย
ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า ธปท.จะเลิกพิมพ์ธนบัตรชนิดฉบับละ 50 บาท ยืนยันว่า ธปท.ยังคงพิมพ์ธนบัตรชนิดราคาดังกล่าวออกใช้ตามปกติ และไม่มีแนวคิดหยุดพิมพ์และออกใช้ ตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งในทางกลับกัน ธปท.จะมีการพิมพ์เพิ่มเพื่อออกใช้มากขึ้นด้วย เพราะที่ผ่านมาหมุนเวียนในระบบน้อยมาก และบางครั้งธนาคารพาณิชย์ บางสาขาไม่ได้มีสำรองไว้ ส่งผลให้ปริมาณธนบัตรชนิดนี้ในท้องตลาดมีน้อยมาก ประกอบกับไม่เป็นที่นิยมของประชาชน ที่ส่วนใหญ่นิยมใช้ธนบัตรชนิดราคา 20 บาท และราคา 100 บาท มากกว่า