"เอสซี แอสเสท" เผยยอดขาย 9 เดือนแรก 5,719 ล้านบาทสูงกว่าปี 53 ทั้งปี รายได้รวม 5,803 ล้านบาท เติบโต 53% กำไรสุทธิ 950 ล้านบาท เดินหน้าเปิดคอนโด 3 โครงการใหม่ ทำเลรถไฟฟ้า มูลค่ากว่า 3,700 ล้านบาท ยืนยันทุกโครงการแนวน้ำท่วมปลอดภัย การันตีความพร้อมระดมสรรพกำลังและเครื่องมือป้องกันน้ำท่วมได้ทุกโครงการ
นางบุษบา ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึง ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2554 โดยระบุว่า บริษัทมีรายได้รวมจำนวน 2,053 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 99% โดยเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 2,050 ล้านบาท รายได้หลักมาจากโครงการที่อยู่อาศัย 1,846 ล้านบาท และอาคารสำนักงานให้เช่า 204 ล้านบาท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 294 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อเทียบผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี พบว่า บริษัท สามารถทำยอดขายรวม 5,719 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 5,803 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 53% รายได้จากการดำเนินงาน 5,756 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 950 ล้านบาท เติบโต 35% และ คิดเป็น 16.4% ของรายได้รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 บริษัทและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม จำนวน 16,036 ล้านบาท และ 6,778 ล้านบาทตามลำดับ ราคาตามบัญชีต่อหุ้น เท่ากับ 14.11 บาท เทียบกับราคาพาร์ 5 บาทต่อหุ้น
นางบุษบา กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับในช่วงต้นไตรมาส 4 บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ระดับพรีเมี่ยมพร้อมกัน 3 โครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าสุขุมวิทและสถานีติวานนท์ มูลค่ารวมประมาณ 3,710 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์พรีเมี่ยมหรู ได้แก่ "โครงการเดอะเครสท์ สุขุมวิท 24" คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ติดสวนเบญจสิริ ใกล้บีทีเอส พร้อมพงษ์ จำนวน 82 ยูนิต มูลค่า 650 ล้านบาท , "โครงการเดอะ เครสท์ สุขุมวิท 49" คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ใกล้ บีทีเอส ทองหล่อ จำนวน 88 ยูนิต มูลค่า 460 ล้านบาท และ"โครงการเซ็นทริค สถานีติวานนท์" เพียง 100 เมตร จากสถานีติวานนท์ เส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง คอนโดมิเนียมดีไซน์เป็น 2 อาคารสูงขนาด 36 และ41 ชั้น จำนวนรวม 1,060 ยูนิต มูลค่า 2,600 ล้านบาท" ซึ่งแต่ละแห่งมีสไตล์และจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ยังคงรักษาแนวคิด 5 จุดขายของเอสซีฯ ภายใต้สโลแกน "คิดด้วยรัก ดีไซน์เพื่อนาคต" และพร้อมตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ มีสไตล์ และมีสีสัน ชอบสังคม สิ่งอำนวยความสะดวก และใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งจากการเปิดพรีเซลส์ทั้ง 3 โครงการปรากฏว่า ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับโครงการใหม่ที่เป็นโครงการแนวราบ การก่อสร้างเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ แต่จะชะลอการเปิดขายออกไปก่อน ซึ่งพร้อมจะเปิดการขายได้ทันทีที่สถานการณ์น้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ
"จากสภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้น โครงการส่วนใหญ่ของเอสซี แอสเสท มีการวางแผนก่อสร้างให้สูงกว่าระดับถนนภายนอก 30-50 เซนติเมตร (ซ.ม.) ซึ่งสามารถป้องกันน้ำเข้าโครงการได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ เอสซีฯ ยังมีมาตรการดูแลโครงการและลูกค้าทุกโครงการเพิ่มจากภาวะปกติ ทั้งโครงการที่ขายอยู่ในปัจจุบันและโครงการที่ปิดการขายและได้ส่งมอบโครงการให้นิติบุคคลแล้ว โดยใช้งบประมาณและสรรพกำลังในการดูแลโครงการและลูกค้าตลอดระยะเวลาที่เกิดวิกฤตอุทกภัย โดยมีการจัดเตรียม 3 เรื่องหลักที่สำคัญ ได้แก่ (1) การจัดหาเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการดูแลป้องกันน้ำท่วมสำหรับโครงการ (2) จัดสรรทีมเจ้าหน้าที่ประจำวอร์รูม อาคารชินวัตรทาวเวอร์3 และที่โครงการเพื่อตรวจเช็คข้อมูลและดูแลลูกค้าต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เปิดคอลเซ็นเตอร์ โทร 1749 (กด 8) เพื่อรับเรื่องและตอบคำถามและแจ้งข้อมูลผ่าน SMS ให้ลูกบ้านทั้งเรื่องระดับน้ำและมาตรการการเตรียมตัว (3) จัดหารถรับ-ส่งและปัจจัย 4 เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับลูกบ้าน พร้อมจัดเตรียมสถานที่รองรับลูกค้าเพื่อสำรองในกรณีฉุกเฉินที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้การป้องกันโครงการประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ภายในโครงการของเอสซี แอสเสท ที่อยู่ในแนวน้ำท่วมทั้งหมดไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ถือได้ว่าวิกฤติครั้งนี้ทำให้ เอสซีฯ ได้รับความไว้วางใจและคำขอบคุณจากลูกค้าเป็นอย่างมาก"
นอกจากนี้ เอสซีฯ ยังให้ความสำคัญกับการใส่ใจดูแลลูกค้าและโครงการตลอดมา และจะใช้แนวทางและมาตรการที่ประสบความสำเร็จในการดูแลโครงการทั้งหมดให้ปลอดภัยจากภาวะน้ำท่วมครั้งนี้ สร้างสรรค์ และออกแบบพัฒนาโครงการใหม่ๆ ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป รวมถึงศึกษาและหามาตรการรองรับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต