ASTV ผู้จัดการรายวัน - "ยัวซ่าแบตเตอรี่"กำไรลดลง 16.33 ล้านบาท เหตุตลาดผู้บริโภคมียอดขายลดลง เนื่องจากมีการแข่งขันสูงในตลาด พร้อมทั้งต้องรับรู้ส่วนเพิ่มของหนี้สินและผลประโยชน์ของพนักงานจากปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่
บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ YUASA ระบุว่า ผลประกอบการตามงบการเงินรวมสำหรับไตรมาสที่3ของปี 2554 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรเบ็ดเสร็จ 3.16 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จลดลง 16.33 ล้านลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนซึ่งมีกำไรเบ็ดเสร็จ 19.49 ล้านบาท โดย มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 519.48 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.98 หรือ 51.40 ล้านบาท สาเหตุมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถขึ้นราคาขายได้ แต่ตลาดผู้บริโภคมียอดขายลดลงเนื่องจากมีการแข่งขันสูงในตลาดนี้
ด้านรายได้อื่น บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้อื่นรวม 20.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจากการให้เช่าพื้นที่ และการรับจ้างผลิตของโรงงานที่ 2 กับบริษัทที่เกี่ยวโยงกันและการขายเศษซากตะกั่วที่เพิ่มขึ้น ส่วนด้านต้นทุนขาย บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีต้นทุนขาย 435.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.85 ต่อยอดรายได้จากการขาย สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราร้อยละ 78.62 ต่อยอดรายได้จากการขายเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากตะกั่ว
ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม 101.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.96 เมื่อเปรียบเทียบงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เหตุผลหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของภาษีสรรพสามิตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากนโยบายบัญชี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 บริษัทฯ และบริษัทย่อยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่(ประกอบด้วยมาตรฐานการบัญชี การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน และมาตรฐานการบัญชีที่มีการปรับปรุง) ที่มีผลบังคับใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2554 มาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงิน ยกเว้นมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19“ผลประโยชน์ของพนักงาน” บริษัทฯ และบริษัทย่อยได้รับรู้ส่วนเพิ่มของหนี้สินและผลประโยชน์ของพนักงานสิ้นสุด 30 กันยายน 2554 จำนวน 36.66 ล้านบาท แยกเป็นวิธีปรับย้อนหลังจำนวน 33.13 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายที่รับรู้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จจำนวน 3.53 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานการบัญชีดังกล่าว ทำให้โดยสรุปผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสที่สามของปี 2554 มีกำไรเบ็ดเสร็จจำนวน3.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไร 0.03 บาทต่อหุ้น
บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ YUASA ระบุว่า ผลประกอบการตามงบการเงินรวมสำหรับไตรมาสที่3ของปี 2554 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรเบ็ดเสร็จ 3.16 ล้านบาท กำไรเบ็ดเสร็จลดลง 16.33 ล้านลดลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนซึ่งมีกำไรเบ็ดเสร็จ 19.49 ล้านบาท โดย มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 519.48 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.98 หรือ 51.40 ล้านบาท สาเหตุมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสามารถขึ้นราคาขายได้ แต่ตลาดผู้บริโภคมียอดขายลดลงเนื่องจากมีการแข่งขันสูงในตลาดนี้
ด้านรายได้อื่น บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้อื่นรวม 20.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจากการให้เช่าพื้นที่ และการรับจ้างผลิตของโรงงานที่ 2 กับบริษัทที่เกี่ยวโยงกันและการขายเศษซากตะกั่วที่เพิ่มขึ้น ส่วนด้านต้นทุนขาย บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีต้นทุนขาย 435.60 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 83.85 ต่อยอดรายได้จากการขาย สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราร้อยละ 78.62 ต่อยอดรายได้จากการขายเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากตะกั่ว
ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีค่าใช้จ่ายรวม 101.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.96 เมื่อเปรียบเทียบงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เหตุผลหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของภาษีสรรพสามิตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ เนื่องจากนโยบายบัญชี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 บริษัทฯ และบริษัทย่อยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่(ประกอบด้วยมาตรฐานการบัญชี การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน และมาตรฐานการบัญชีที่มีการปรับปรุง) ที่มีผลบังคับใช้สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มต้นในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2554 มาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ไม่มีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงิน ยกเว้นมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19“ผลประโยชน์ของพนักงาน” บริษัทฯ และบริษัทย่อยได้รับรู้ส่วนเพิ่มของหนี้สินและผลประโยชน์ของพนักงานสิ้นสุด 30 กันยายน 2554 จำนวน 36.66 ล้านบาท แยกเป็นวิธีปรับย้อนหลังจำนวน 33.13 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายที่รับรู้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จจำนวน 3.53 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานการบัญชีดังกล่าว ทำให้โดยสรุปผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาสที่สามของปี 2554 มีกำไรเบ็ดเสร็จจำนวน3.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไร 0.03 บาทต่อหุ้น
