xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ เตือนวิกฤตยุโรป แนะให้ระวังค่าเงิน-สินค้าโภคภัณฑ์ป่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กสิกรฯประเมินผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจยุโรปยังไม่แรง เหตุปริมาณการค้า-การลงทุนไม่มาก แต่ต้องระวังเรื่องค่าเงิน-ราคาสินค้าโ-ภคภัณฑ์ผันผวน เผยมีลูกค้าลงทุนในกลุ่มอียูแค่ 5.5 พันล้านเท่านั้น

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) เปิดเผยถึงผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศในแถบยุโรปต่อเศรษฐกิจไทยว่า ในด้านการค้าประเทศไทยมียอดส่งออกไปอียูประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 11% ของยอดส่งออกทั้งหมด 1.9 แสนล้านบาท เป็นส่วนของ 5 ประเทศประสบปัญหาหนัก 5.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 3%ของยอดส่งออกไปอียู ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่มาก ขณะที่ผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยนั้น ก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีการปรับลดอัตราการเติบโตจีดีพีเหลือ 3.8%

นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจควรระมัดระวังผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนจากการโยกการถือครองเงินยูโร มาเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลงหรือมีความผันผวน รวมถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ราคาทองคำ เป็นต้น

"ประเทศในกลุ่มอียูนั้น ทั้งด้านการค้าขาย-ลงทุน ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อขายหรือลงทุนกันเองในกลุ่ม จึงไม่ค่อยส่งผลโดยตรงกับประเทศไทยมากนัก แต่ก็จะมีผลกระทบทางอ้อมที่จะมาจากเศรษฐกิจโลก แล้วก็เป็นเรื่องของความตื่นตระหนก"

อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ยังคงมีความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจประเทศในแถบยุโรปอย่างใกล้ชิด รวมถึงลูกค้าที่ทำธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศแถบดังกล่าว หากมีการผลกระทบไม่ว่าผิดนัดชำระค่าสินค้า-บริการก็จะดูแลได้ทันที

สำหรับในส่วนของลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยนั้น ก็มีส่วนที่เข้าไปลงทุนในประเทศแถบอียู โดยคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 5.5 พันล้านบาท จากยอดคงค้างสินเชื่อ 3.5 แสนล้านบาท โดยเป็นธุรกิจประเภท จิวเวลลี่ กับอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ซึ่งธนาคารก็ได้มีการติดตามลูกค้าอยู่ตลอดเวลา
กำลังโหลดความคิดเห็น