ซัมซุง จับมือกับ เซ็ทเทรด ดอท คอม แนะ " Streaming Pro"โปรแกรมซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ออนไลน์แบบเรียลไทม์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ลงทุน ผ่านสุดยอดดีไวซ์ผสานประสิทธิภาพความเร็วแรง สามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้ลงทุนรุ่นใหม่ทุกที่ทุกเวลา พร้อมใช้งาน 5 ก.ย.นี้
นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า " ซัมซุง" ในฐานะผู้นำตลาดสมาร์ท แท็บเล็ต กล่าวว่าได้จับมือกับบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด แนะนำ โปรแกรม " Streaming Pro" โปรแกรมซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ออนไลน์แบบเรียลไทม์ ที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น ให้ได้รับความสะดวกสบายในการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเว็บเบสแอปพลิเคชัน บนสุดยอดดีไวซ์อย่าง ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 10.1 โดยเฉพาะ
" การจับมือกับเซ็ทเทรดในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ซัมซุงนำมาใช้ เพื่อดำเนินงานตามพันธกิจของซัมซุง ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกด้าน และครั้งนี้ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ซัมซุง ได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพของซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องธุรกิจ เข้าถึงข้อมูลทั้งตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันทีบน ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บได้อย่างสมบูรณ์ ด้วย "
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด กล่าวว่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นมาก โดยช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ( ม.ค. - ก.ค. 54) มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึง 47.84% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 2 ล้านล้านบาท หรือ 24.14 % ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์รวม ส่วนตลาดอนุพันธ์มีการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัว (+156.98%) เป็น 2.6 ล้านสัญญา หรือคิดเป็น 28.83 % ของสัญญา ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในช่วงเดียวกัน ด้วยแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ยังส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมานิยมส่งคำสั่งซื้อขายผ่านอุปกรณ์มือถือและ Tablet มากขึ้น เห็นได้จากสถิติ ณ สิ้นเดือน ก.ค. สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ผ่าน มือถือและ Tablet คิดเป็นประมาณ 2.80 % ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3 เท่า จากสิ้นปี 53 ที่ 1.08 % และยังคงมีแนวโน้มการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงพัฒนาโปรแกรม ซื้อขายออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบรับพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่ต้องการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองเพิ่มมากขึ้น
นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า " ซัมซุง" ในฐานะผู้นำตลาดสมาร์ท แท็บเล็ต กล่าวว่าได้จับมือกับบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด แนะนำ โปรแกรม " Streaming Pro" โปรแกรมซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ออนไลน์แบบเรียลไทม์ ที่ได้รับการพัฒนาและออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น ให้ได้รับความสะดวกสบายในการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเว็บเบสแอปพลิเคชัน บนสุดยอดดีไวซ์อย่าง ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ 10.1 โดยเฉพาะ
" การจับมือกับเซ็ทเทรดในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ซัมซุงนำมาใช้ เพื่อดำเนินงานตามพันธกิจของซัมซุง ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกด้าน และครั้งนี้ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ซัมซุง ได้เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพของซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บ ที่สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องธุรกิจ เข้าถึงข้อมูลทั้งตลาดหุ้นและตลาดอนุพันธ์ สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ทันทีบน ซัมซุง กาแล็คซี่ แท็บได้อย่างสมบูรณ์ ด้วย "
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด กล่าวว่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีการเติบโตขึ้นมาก โดยช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ( ม.ค. - ก.ค. 54) มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึง 47.84% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 2 ล้านล้านบาท หรือ 24.14 % ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์รวม ส่วนตลาดอนุพันธ์มีการซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเกินกว่าเท่าตัว (+156.98%) เป็น 2.6 ล้านสัญญา หรือคิดเป็น 28.83 % ของสัญญา ที่มีการซื้อขายทั้งหมดในช่วงเดียวกัน ด้วยแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว ยังส่งผลให้ผู้ลงทุนหันมานิยมส่งคำสั่งซื้อขายผ่านอุปกรณ์มือถือและ Tablet มากขึ้น เห็นได้จากสถิติ ณ สิ้นเดือน ก.ค. สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ผ่าน มือถือและ Tablet คิดเป็นประมาณ 2.80 % ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3 เท่า จากสิ้นปี 53 ที่ 1.08 % และยังคงมีแนวโน้มการใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงพัฒนาโปรแกรม ซื้อขายออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบรับพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่ต้องการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยตนเองเพิ่มมากขึ้น
