ประเมินผลงาน 1 ปี บอร์ดแบงก์ชาติให้ “ประสาร” สอบผ่านเก้าอี้ผู้ว่าฯ ชี้โดดเด่นด้านธรรมาภิบาล และความเป็นอิสระจากการเมือง แต่เสนอเพิ่มพนักงานวิเคราะห์วิจัย ผู้ว่าฯ ควรเปิดตัวกับสื่อนอก เพื่อยกระดับแบงก์ชาติสู่สากลมากขึ้น
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบการทำงาน ได้ประเมินให้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.ซึ่งจะครบกำหนดการทำงาน 1 ปี ในเดือน ก.ย.นี้ ออกมาในเกณฑ์ที่ดีและเป็นระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในเรื่องธรรมาภิบาล และการเป็นอิสระในการทำงานจากการเมือง
นอกจากนั้น ยังมีความตั้งใจและความสามารถในการใช้นโยบายการเงินในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังมีวัฒนธรรมและนิสัยของคน ธปท.ที่ชัดเจน แต่ก็เข้าใจในการทำงานของเอกชน และสามารถนำกลไกของเอกชนมาปรับใช้ในองค์กร ธปท.ซึ่งทำให้การทำงานดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าการ ธปท.ดำเนินการเพิ่มเติม คือ กำหนดแนวทางพัฒนาบุคลากรให้เข้มข้นมากขึ้น โดยปรับปรุงบุคลากรที่มีอยู่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางของโลกอื่นๆ มากขึ้น โดยเพิ่มพนักงานในระดับที่ใช้การวิเคราะห์วิจัยในการทำงานมากขึ้น และลดพนักงานภาคธุรการลง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะขณะนี้ ธปท.มีพนักงานทั้งสองประเภทในสัดส่วน 50:50 ขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆอยู่ในระดับ 70:30 คณะกรรมการฯ ยังเห็นว่าผู้ว่าการ ธปท.ควรจะสร้างภาพลักษณ์ของ ธปท.ต่อสาธารณะชน เพื่อให้การทำงานของ ธปท.เป็นที่รู้จักในระดับสากล
“ผู้ว่าฯ อาจคิดว่าเป็นการยกหางตัวเอง แต่ถ้าคิดว่าผู้ว่าฯได้ออกบลูมเบิร์กหรือไทมส์ ก็จะทำให้ได้รู้ว่าเมืองไทยเป็นประเทศในกลุ่มระดับกลาง โลกต้องรู้ ไม่ใช่อยู่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่เจริญ จึงต้องให้เห็นว่าเมืองไทยก็มีหน้ามีตาเหมือนประเทศอื่น” ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวและว่า เรื่องความมั่นใจในสายตาต่างชาติ ต้องวัดกันที่เรื่องนโยบายอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธปท.มีระบบประเมินการทำงานของพนักงานที่แตกต่างกับภาคเอกชน และหน่วยงานราชการ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบฯ มีข้อเสนอแนะว่า ธปท.ควรมีการประเมินเรื่องจำนวนพนักงานและการจัดลำดับงานให้มีความเหมาะสมกับงานในความรับผิดชอบให้มากขึ้นด้วย
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบการทำงาน ได้ประเมินให้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.ซึ่งจะครบกำหนดการทำงาน 1 ปี ในเดือน ก.ย.นี้ ออกมาในเกณฑ์ที่ดีและเป็นระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในเรื่องธรรมาภิบาล และการเป็นอิสระในการทำงานจากการเมือง
นอกจากนั้น ยังมีความตั้งใจและความสามารถในการใช้นโยบายการเงินในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังมีวัฒนธรรมและนิสัยของคน ธปท.ที่ชัดเจน แต่ก็เข้าใจในการทำงานของเอกชน และสามารถนำกลไกของเอกชนมาปรับใช้ในองค์กร ธปท.ซึ่งทำให้การทำงานดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมีข้อเสนอแนะให้ผู้ว่าการ ธปท.ดำเนินการเพิ่มเติม คือ กำหนดแนวทางพัฒนาบุคลากรให้เข้มข้นมากขึ้น โดยปรับปรุงบุคลากรที่มีอยู่ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางของโลกอื่นๆ มากขึ้น โดยเพิ่มพนักงานในระดับที่ใช้การวิเคราะห์วิจัยในการทำงานมากขึ้น และลดพนักงานภาคธุรการลง เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะขณะนี้ ธปท.มีพนักงานทั้งสองประเภทในสัดส่วน 50:50 ขณะที่ธนาคารกลางอื่นๆอยู่ในระดับ 70:30 คณะกรรมการฯ ยังเห็นว่าผู้ว่าการ ธปท.ควรจะสร้างภาพลักษณ์ของ ธปท.ต่อสาธารณะชน เพื่อให้การทำงานของ ธปท.เป็นที่รู้จักในระดับสากล
“ผู้ว่าฯ อาจคิดว่าเป็นการยกหางตัวเอง แต่ถ้าคิดว่าผู้ว่าฯได้ออกบลูมเบิร์กหรือไทมส์ ก็จะทำให้ได้รู้ว่าเมืองไทยเป็นประเทศในกลุ่มระดับกลาง โลกต้องรู้ ไม่ใช่อยู่ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่ยังไม่เจริญ จึงต้องให้เห็นว่าเมืองไทยก็มีหน้ามีตาเหมือนประเทศอื่น” ม.ร.ว.จัตุมงคลกล่าวและว่า เรื่องความมั่นใจในสายตาต่างชาติ ต้องวัดกันที่เรื่องนโยบายอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ธปท.มีระบบประเมินการทำงานของพนักงานที่แตกต่างกับภาคเอกชน และหน่วยงานราชการ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบฯ มีข้อเสนอแนะว่า ธปท.ควรมีการประเมินเรื่องจำนวนพนักงานและการจัดลำดับงานให้มีความเหมาะสมกับงานในความรับผิดชอบให้มากขึ้นด้วย