“ชัจจ์” ออกตัวรู้เรื่อง ร.ฟ.ท.มากที่สุด ชี้ ปัญหารถไฟแก้ง่ายกว่าจับผู้ร้าย ชูไอเดียเปลี่ยนราง 1.435 เมตร ทำทางคู่เชื่อมเพื่อนบ้าน-ยุโรป ด้านสหภาพฯ ร.ฟ.ท.ร้อง “สุพจน์” ชะลอ คำสั่งเลิกจ้าง เหตุอยู่ระหว่างอุทธรณ์คำสั่งศาลแรรงาน คดียังไม่สิ้นสุด
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางในการทำงานในตำแหน่ง เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า ถ้าโครงการไหนดี ก็เดินหน้าต่อ ไม่ดีต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับนโยบายของพรรค ตอนนี้ยังไม่มีการแบ่งงานกัน จึงยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่พร้อมที่ทำงานทันที โดยได้ศึกษางานไว้บ้างแล้ว และสนใจการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยเห็นว่า รถไฟควรมีแผนแม่บทที่ชัดเจน ไม่ใช่ทำอะไรตามใจเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันการขนส่งทางรถไฟของไทยไม่สามารถเชื่อมไปเพื่อนบ้านได้ เพราะรางรถไฟไทยมีขนาด 1 เมตร ควรเปลี่ยนเป็นขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล เพราะรถไฟมีที่ดินอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนมาก และควรทำรถไฟทางคู่เชื่อมอาเซียน ตะวันออกกลาง และยุโรป
“ถ้าผมได้รับมอบหมายให้ดูแลรถไฟ มั่นใจว่า จะแก้ปัญหาได้ งานนี้ง่าย ผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน จับผู้ร้ายยากกว่าแก้ปัญหารถไฟ แต่ที่ผ่านมา ที่ทำกันไม่ได้ เพราะพูดอย่างแต่ใจอีกอย่าง เลยมีปัญหา” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า การประมูลจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมา หากไม่ได้สร้างความเสียหายก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าตรวจพบหรือข้าราชการบอกว่าทำแล้วมีปัญหา ก็ต้องขอดูข้อมูลว่าแก้ไขได้หรือไม่ ถ้ายกเลิกจะถูกฟ้องร้องหรือไม่ เพราะประมูลไปแล้ว หลักการประมูลต้องโปร่งใส สื่อตรวจสอบได้ ราคาถูก ได้ประโยชน์สูงสุด เปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพราะงบประมาณมีจำกัด เช่น มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ ทราบว่า เปิดประมูลแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้เสนอตัว เพราะใช้เงินลงทุนสูง ก็ต้องดูว่าจะทำได้อย่างไรและจะต่อไปถึงท่าเรือทวาย ได้หรือไม่ เป็นต้น
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง นายบุญมา ป๋งมา รองเลขาธิการสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ยื่นหนังสือขอให้ ร.ฟ.ท.รับกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สาขาหาดใหญ่ 6 คน กลับเข้าทำงานและให้ชะลอการเลิกจ้างกรรมการบริหาร สร.รฟท.7 คน ซึ่งศาลแรงงานมีคำพิพากษาให้ ร.ฟ.ท.เลิกจ้าง และชดเชยค่าเสียหาย 15 ล้านบาท ว่า สหภาพฯ ร.ฟ.ท.มาขอความเห็นใจ เพราะหลังศาลแรงงานพิพากษา ร.ฟ.ท.มีคำสั่งเลิกจ้าง แต่ขณะนี้ได้มีการยื่นอุทธรณ์ ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ดังนั้น จะหารือกับ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เพื่อให้ชะลอการเลิกจ้าง ซึ่งถือเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายปกติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สหภาพฯ ร.ฟ.ท.ได้ให้ความร่วมมือในการทำงานเพื่อพัฒนา ร.ฟ.ท.เป็นอย่างดี
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวทางในการทำงานในตำแหน่ง เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า ถ้าโครงการไหนดี ก็เดินหน้าต่อ ไม่ดีต้องเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับนโยบายของพรรค ตอนนี้ยังไม่มีการแบ่งงานกัน จึงยังพูดอะไรมากไม่ได้ แต่พร้อมที่ทำงานทันที โดยได้ศึกษางานไว้บ้างแล้ว และสนใจการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยเห็นว่า รถไฟควรมีแผนแม่บทที่ชัดเจน ไม่ใช่ทำอะไรตามใจเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันการขนส่งทางรถไฟของไทยไม่สามารถเชื่อมไปเพื่อนบ้านได้ เพราะรางรถไฟไทยมีขนาด 1 เมตร ควรเปลี่ยนเป็นขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล เพราะรถไฟมีที่ดินอยู่แล้วไม่ต้องลงทุนมาก และควรทำรถไฟทางคู่เชื่อมอาเซียน ตะวันออกกลาง และยุโรป
“ถ้าผมได้รับมอบหมายให้ดูแลรถไฟ มั่นใจว่า จะแก้ปัญหาได้ งานนี้ง่าย ผมเคยเป็นตำรวจมาก่อน จับผู้ร้ายยากกว่าแก้ปัญหารถไฟ แต่ที่ผ่านมา ที่ทำกันไม่ได้ เพราะพูดอย่างแต่ใจอีกอย่าง เลยมีปัญหา” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า การประมูลจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมา หากไม่ได้สร้างความเสียหายก็เดินหน้าต่อไป แต่ถ้าตรวจพบหรือข้าราชการบอกว่าทำแล้วมีปัญหา ก็ต้องขอดูข้อมูลว่าแก้ไขได้หรือไม่ ถ้ายกเลิกจะถูกฟ้องร้องหรือไม่ เพราะประมูลไปแล้ว หลักการประมูลต้องโปร่งใส สื่อตรวจสอบได้ ราคาถูก ได้ประโยชน์สูงสุด เปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน เพราะงบประมาณมีจำกัด เช่น มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ ทราบว่า เปิดประมูลแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มีผู้เสนอตัว เพราะใช้เงินลงทุนสูง ก็ต้องดูว่าจะทำได้อย่างไรและจะต่อไปถึงท่าเรือทวาย ได้หรือไม่ เป็นต้น
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง นายบุญมา ป๋งมา รองเลขาธิการสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ยื่นหนังสือขอให้ ร.ฟ.ท.รับกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สาขาหาดใหญ่ 6 คน กลับเข้าทำงานและให้ชะลอการเลิกจ้างกรรมการบริหาร สร.รฟท.7 คน ซึ่งศาลแรงงานมีคำพิพากษาให้ ร.ฟ.ท.เลิกจ้าง และชดเชยค่าเสียหาย 15 ล้านบาท ว่า สหภาพฯ ร.ฟ.ท.มาขอความเห็นใจ เพราะหลังศาลแรงงานพิพากษา ร.ฟ.ท.มีคำสั่งเลิกจ้าง แต่ขณะนี้ได้มีการยื่นอุทธรณ์ ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ดังนั้น จะหารือกับ นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.เพื่อให้ชะลอการเลิกจ้าง ซึ่งถือเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายปกติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สหภาพฯ ร.ฟ.ท.ได้ให้ความร่วมมือในการทำงานเพื่อพัฒนา ร.ฟ.ท.เป็นอย่างดี