xs
xsm
sm
md
lg

ครึ่งปีก่อสร้างตบเท้าโกยกำไร เผยตลาดไตรมาส 2/54 เริ่มกระเตื้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไตรมาส2ตลาดก่อสร้างรายได้กระเตื้อง งานก่อสร้างในระบบเริ่มขยายตัว ขณะผู้ประกอบการแจงผลกรดำเนินงานงวด6เดือนกำไรขยับสูงขึ้นแทบทุกราย ด้านเนาวรัตน์ฯยังขาดทุนต่อนเองแต่แนวโน้มเริ่มดีขึ้นเมื่อผลขาดทุนลดต่ำลง โดยยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาส2 อยู่ที่29ล้านบาท ส่วน ชิโน่-ไทยฯ เผยกำไรไตรมาส2กำไร220.93ล้านบาทเพิ่มขึ้จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 125.61ล้านบาท

นางวัฒนา สัมนาวงศ์ กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) (NWR) กล่าาวว่า ผลการดำเนินงานงวด 3เดือนและ 6เดือน ของบริษัทย่อยและกิจการที่ควบคุมร่วมกันซึ่งรวมอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัท โดยมียอดรายได้รวมประจำงวด 3เดือน 260 ล้านบาท และงวด6เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 จำนวน558 ล้านบาท โดยมียอดขาดทุนสุทธิสำหรับงวด3เดือนจำนวน29ล้านบาท และงวด 6เดือนจำนวน38 ล้านบาท

นายวรพันธ์ ช้อนทอง กรรมการ บริษัท ชิโน่-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัท มีผลกำไรสุทธิรวมจำนวนเงิน 220.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125. 61ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาส2ของปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 95.32 ล้านบาท และขณะที่งวด6เดือน มีกำไรสุทธิรวม387.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ177.05 ล้านบาทประมาณ 210.42ล้านบาท

สำหรับกำไรสุทธิขอองงวด3เดือนที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวนเงิน 125.61 ล้านบาทคิดเป็น 131.77% และงวด6เดือน กำไรเพิ่มขึ้น 210.42 ล้านบาท คิดเป็น 118.85% ทั้งนี้ สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของกำไรในงวด 3เดือนและ6เดือนในปีนี้เนื่องจาก บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรขั้นต้นสำหรับ3เดือนและงวด6เดือนปี 2554 เป็นจำนวนเงิน 324.34 และ 597.30 ล้านบาทตามลำดับ ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นเป็นจำนวนเงิน 192.77 และ 369.48 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็นจำนวนเงิน 131.57 ล้านบาท คิดเป็น 68.25% สำหรับงวด3เดือนและเป็นจำนวนเงิน 227.82 ล้านบาท คิดเป็น 61.66% สำหรับงวด6เดือน เนื่องมาบริษัทฯและบริษัทย่อยมีรายได้จากงานก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นประกอบกับมีรายได้ของโครงการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
 
ด้านนายศิริพงศ์ ว่องวุฒิพรชัย กรรมการบริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) (EMC) กล่าวว่าผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2554 หรือไตรมาสที่2 ปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาโครงการรวม 702.62 ล้านบาทต้นทุนการรับเหมาก่อสร้างและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาโครงการ 669.80 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น 32.83 ล้านบาทหลังบวกรายได้อื่นและหักค่าใช้จ่ายอื่นแล้วมีกำไรสุทธิก่อนภาษีเงินได้จำนวน 6.36 ล้านบาทมีภาษีเงินได้นิติบุคคล 1.11 ล้านบาท และผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนเป็นกำไรสุทธิ 5.24 ล้านบาท

“ในไตรมาสที่ 2ของปีนี้มีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างและค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาโครงการ 702.62 ล้านบาทเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น 294.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น72% เพราะในระหว่างไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ได้พยายามเร่งรัดงานก่อสร้างในหลายโครงการเพื่อให้เสร็จทันกำหนดส่งมอบงานในช่วงปลายปี 2554 และการขยายการรับงานเข้าไปยังธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะทำให้ในไตรมาสนี้บริษัทฯ รับรู้รายได้เพิ่มขึ้น”

ด้านนายธาดา ชุมะศารทูล เลขานุการ บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (PLE) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ บริษัท, บริษัทย่อย, บริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า สำหรับงวด3เดือนของไตรมาสที่ 2/2554 และงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจากงบการเงินรวม 6 เดือน มีผลกำไร96.7 ล้านบาท เทียบกับปี2553ที่มีกำไร 206.8 ล้านบาท ในขณะที่ในงบการเงินเฉพาะบริษัทมีกำไรรวม จำนวน 165.8 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2553 จำนวน 260.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ของกำไรเนื่องจากบริษัทมีรายได้รวม งวด 6 เดือน จำนวน 4,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.8 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี2553 จำนวน 3,340ล้านบาท ในขณะที่งบการเงินเฉพาะบริษัทมีรายได้ จำนวน 2,650 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี2553 จำนวน 1,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.8% ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้ของงานในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นและ2.บริษัทมีอัตราส่วนต้นทุนในการรับเหมาก่อสร้างสูงขึ้นในปี 2554 ในอัตราที่ 96% ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่ 89.8% ซึ่งทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 4% เปรียบเทียบกับกำไรขั้นต้นที่ 11.2% ในปี 2553 ในทำนองเดียวกันงบการเงินเฉพาะบริษัทมีกำไรขั้นต้น 3.3% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ซึ่งกำไรขั้นต้นอัตรา8.8% ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น