xs
xsm
sm
md
lg

ประธานสภาตลาดทุนขอรัฐลดภาษีหวังดันดัชนีหุ้นไทยเพิ่มได้อีก100จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ชี้ หากรัฐบาลใหม่ประกาศลดภาษีบจ. จะส่งผลดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 จุด และกำไรบจ.โต 10% พร้อมเชื่อหากปัจจัยการเมืองนิ่งตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศเข้ามาได้ ดันหุ้นพุ่งแตะ 1.2พันจุดสิ้นปีนี้ ด้าน “ศุภวุฒิ”เผย นโยบายเพื่อไทยปฏิบัติยาก

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยหลังการเลือกตั้งนั้นมีการปรับตัวดีขึ้นจากการที่รัฐบาลใหม่ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในเรื่องการบริโภค การลงทุน และหากมีการจัดตั้งรัฐบาลและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้ ก็จะจ้องมาดูในเรื่องการประกาศนโยบายเศรษฐกิจว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร จากที่หาเสียงเอาไว้ ซึ่งหลายนโบายนั้นเป็นเรื่องที่ดี และอย่างนโยบายนั้นมีการท้วงติงบ้างแม้จะยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาล โดยรัฐบาลจะต้องมีการดำเนินนโยบายให้รอบคอบและเรียงลำดับความสำคัญ โดยคาดว่าจีดีพีปีนี้จะดต 4% ขณะที่ปีหน้าจะโต 4-5%

ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่าหากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้นอาจกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนน้อยมาก จากที่ได้มีการสำรวจความเห็นบริษัทจดทะเบียนมา แต่หากรัฐบาลใหม่มีการประกาศลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 23% ซึ่งมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2555 นั้นจะส่งทำให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีกำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ทันที และส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 100 จุด
 
สำหรับทิศทางการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศนั้น จากสถานการณ์ภายในประเทศและต่างประเทศไม่มีปัญหา เชื่อว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นดี ส่งผลมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป)ตลาดหุ้นไทยมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น และปัจจุบันหุ้นที่มีสภาพคล่องการซื้อขายเกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันมีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30 บริษัทโดยเป็นขนาดที่นักลงทุนต่างประเทศลงทุนได้ จึงจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศที่เป็นเม็ดเงินใหม่ที่มีการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้มีโฮกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,200 จุด ได้

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นที่ดีต่อประเทศไทยมากขึ้น หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี และพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงมาก ทำให้เกิดความมั่นคงทางการเมืองมากขึ้น แต่นักลงทุนเป็นห่วงเรื่องนโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยว่าจะปฏิบัติได้ยาก จากนโยบายนั้นต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ แต่ขณะเดียวกันจะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านการเติบโตของเศรษฐกิจที่อาจไม่เป็นไปตามคาดการณ์ไว้ จากการขาดวินัยทางการคลัง ซึ่งส่งผลให้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย มีผลทำให้ค่าเงินบาทแข็ง
กำลังโหลดความคิดเห็น