หุ้นไทยแรงหมด ปิดตลาดติดลบ 5.69 จุด โบรกฯเชื่อเพราะวันก่อนขึ้นแรงจัด จนเกินแรงเทขายทกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ และ พลังงาน ประเมินทิศทางยังเป็นจากการได้รัฐบาลเสียงข้างมาก คาดวันนี้ยังมีแรงเทขายทำกำไรออกมา พร้อมเตือนจับตาปัจจัยลบภายนอกอาจกดดัชนีรูด!
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 ก.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,084.59 จุด ลดลง 5.69 จุด หรือ 0.52% มูลค่าการซื้อขาย 45,283.55 ล้านบาท ตลอดวันดัชนีปรับตัวผันผวน โดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร หลังปรับตัวขึ้นไปสูงมากในวันก่อนหน้านี้ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,097.07 จุด และต่ำสุดที่ 1,080.98 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 180 หลักทรัพย์ ลดลง 245 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 156 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,604.80 ล้านบาท ปิดที่ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,094.95 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ITD มูลค่าการซื้อขาย 2,740.19 ล้านบาท ปิดที่ 4.48 บาท ลดลง 0.12 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,230.29 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท ลดลง 1.50 บาท และ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,716.90 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 4,430.30 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 131.58 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไป และสถาบันขายสุทธิ 3,109..82 ล้านบาท และ 1,452.06 ล้านบาทตามลำดับ
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังเมื่อวานนี้ตลาดฯตอบรับข่าวเชิงบวกเรื่องรัฐบาลใหม่แรงเกินไป โดยดัชนีฯปรับตัวขึ้นถึง 48 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้เช้าวานนี้นักลงทุนเข้ามาซื้อช่วงเปิดค่อนข้างมาก แต่ระหว่างวันก็มีแรงขายสลับออกมาทำให้หุ้นวันนี้เป็นลักษณะเริ่มพักตัว
อย่างไรก็ตาม มองว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา เป็นโอกาสที่จะเข้าไปช้อนซื้อ เพราะนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันยังซื้ออยู่ และโดยรวมยังมีมุมมองเชิงบวกหลังความเสี่ยงเรื่องการเมืองลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคส่วนใหญ่บวก-ลบในกรอบแคบๆ ไร้ทิศทาง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังจากวานนี้ดัชนีฯปรับตัวขึ้นแรงเกือบ 50 จุด แต่มองว่า sentiment ในภาพรวมยังเป็นบวกจากที่ได้รัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ทำให้เชื่อว่าเสถียรภาพทางการเมืองค่อนข้างดี ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มเข้าซื้อ มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น ขณะนี้ก็ต้องรอดูเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
สำหรับปัจจัยภายนอกยังต้องจับตาการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิดต่อไป หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น รอบนี้ดัชนีฯก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,100-1,130 จุดทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (6 ก.ค.) ประเมินว่าดัชนีคงแกว่งตัว sideway up และอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาอีกบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,082-1,075 จุด แนวต้าน 1,095-1,100 จุด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 ก.ค.) ดัชนีปิดที่ระดับ 1,084.59 จุด ลดลง 5.69 จุด หรือ 0.52% มูลค่าการซื้อขาย 45,283.55 ล้านบาท ตลอดวันดัชนีปรับตัวผันผวน โดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงาน และธนาคาร หลังปรับตัวขึ้นไปสูงมากในวันก่อนหน้านี้ โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,097.07 จุด และต่ำสุดที่ 1,080.98 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 180 หลักทรัพย์ ลดลง 245 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 156 หลักทรัพย์ โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ JAS มูลค่าการซื้อขาย 4,604.80 ล้านบาท ปิดที่ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,094.95 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ITD มูลค่าการซื้อขาย 2,740.19 ล้านบาท ปิดที่ 4.48 บาท ลดลง 0.12 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,230.29 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท ลดลง 1.50 บาท และ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,716.90 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 4,430.30 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 131.58 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไป และสถาบันขายสุทธิ 3,109..82 ล้านบาท และ 1,452.06 ล้านบาทตามลำดับ
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังเมื่อวานนี้ตลาดฯตอบรับข่าวเชิงบวกเรื่องรัฐบาลใหม่แรงเกินไป โดยดัชนีฯปรับตัวขึ้นถึง 48 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ทำให้เช้าวานนี้นักลงทุนเข้ามาซื้อช่วงเปิดค่อนข้างมาก แต่ระหว่างวันก็มีแรงขายสลับออกมาทำให้หุ้นวันนี้เป็นลักษณะเริ่มพักตัว
อย่างไรก็ตาม มองว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา เป็นโอกาสที่จะเข้าไปช้อนซื้อ เพราะนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันยังซื้ออยู่ และโดยรวมยังมีมุมมองเชิงบวกหลังความเสี่ยงเรื่องการเมืองลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคส่วนใหญ่บวก-ลบในกรอบแคบๆ ไร้ทิศทาง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา หลังจากวานนี้ดัชนีฯปรับตัวขึ้นแรงเกือบ 50 จุด แต่มองว่า sentiment ในภาพรวมยังเป็นบวกจากที่ได้รัฐบาลชุดใหม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ทำให้เชื่อว่าเสถียรภาพทางการเมืองค่อนข้างดี ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มเข้าซื้อ มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น ขณะนี้ก็ต้องรอดูเรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
สำหรับปัจจัยภายนอกยังต้องจับตาการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิดต่อไป หากไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น รอบนี้ดัชนีฯก็มีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,100-1,130 จุดทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (6 ก.ค.) ประเมินว่าดัชนีคงแกว่งตัว sideway up และอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาอีกบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,082-1,075 จุด แนวต้าน 1,095-1,100 จุด
