ตลาดหุ้นไทยพุ่งเกือบ 5% แรงซื้อบิ๊กแคป-กลุ่มชิน ปลุกดัชนีดีดขึ้นแรงกว่า 50 จุด วอลุ่มแน่น 6.3 หมื่นล้าน หลังรัฐบาลผสม 299 เสียงชัดเจน ขณะที่ปัจจัย ตปท.เป็นบวก
ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ ดัชนีภาคบ่ายยังเดินหน้าบวกต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.35 น.ดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,093.22 จุด เพิ่มขึ้น 51.74 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +4.97% มูลค่าการซื้อขาย 50,491.21 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อหนานแน่นในกลุ่มบิ๊กแคป และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มชินวัตร หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำมีความชัดเจนว่าจะประกอบด้วย 5 พรรคการเมือง รวม 299 เสียง ขณะที่ทิศทางตลาดต่างประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
ล่าสุด ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,090.28 จุด เพิ่มขึ้น 48.80 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +4.69% โดยมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 63,110.36 ล้านบาท โดยพบว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 10,703.13 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิที่ 4,524.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิที่ 1,616.20 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิที่ 16,844.25 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,935.68 ล้านบาท ปิดที่ 351.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,454.12 ล้านบาท ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,233.99 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,220.52 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท และITD มูลค่าการซื้อขาย 2,739.05 ล้านบาท ปิดที่ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท
ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า หุ้นในกลุ่มชินคอร์ป ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าวที่พรรคเพื่อไทย ได้เป็ฯแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (INTUCH) ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 85.316 ล้านบาท บมจ.ไทยคม (THCOM) ปิดที่ 9.95 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,193.17 ล้านบาท บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ปิดที่ 111.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,209.46 ล้านบาท บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ปิดที่ 6.15บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าการซื้อขาย 33.453 ล้านบาท
ขณะที่หุ้น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) ซึ่งมีอดีตผู้บริหารคือ ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิง ปิดที่ 15.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,780.51 ล้านบาท เช่นเดียวกับหุ้นในมือของกลุ่มวงศ์สวัสดิ์ บมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น ญาติของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ปิดที่ 2.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าการซื้อขาย 532.68 ล้านบาท
นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นแรงกว่า 50 จุด ซึ่งไม่ได้เห็นการปรับเพิ่มขึ้นในวันเดียวมากขนาดนี้มานานเกือบปี เป็นผลจากนักลงทุนตอบรับความชัดเจนเรื่องการเมืองหลังการเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ส่งผลให้มีแรงเข้าซื้อหุ้นต่างๆ โดยเฉพาะหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาลทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และเกษตร อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติกลับเข้าซื้อหุ้นไทยอีกครั้ง
ส่วนแนวโน้มวันที่ 5 กรกฎาคม 2554 นี้ มองว่า ดัชนีอาจเริ่มแกว่งแบบทรงตัว เนื่องจากรับรู้ปัจจัยบวกเรื่องการเมืองหลังการเลือกตั้งไปแล้ว โดยต้องติดตามการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ เพราะยังมีความกังวลและความเสี่ยงจากนโยบาย 3 อ่อน คือ ค่าเงินบาท ภาษี และดอกเบี้ยอ่อน ซึ่งต้องดูว่ารัฐจะควบคุมเงินเฟ้อได้อย่างไร ประเมินแนวรับที่ 1,082 จุด และแนวต้าน 1,102 จุด ด้านกลยุทธ์ แนะนำเทขายเมื่อดัชนีเพิ่มขึ้น และเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และรับเหมา
