ผู้บริหาร TTA เผยได้รับหนังสือจากกลุ่มผู้ถือหุ้น 75 ราย คิดเป็นสัดส่วน 10.199% เรียกร้องให้ประชุมวิสามัญ “ธีระชัย” เร่งตรวจสอบกรณีฮุบหุ้น 30% แล้วไม่ทำเทนเดอร์ฯ พร้อมเพิ่มข้อหา ปั่นหุ้น-อินไซด์เทรดดิ้ง ส่วนกรณี “วิจิตร” มีส่วนเอี่ยว ไม่ผิดธรรมาภิบาล เพราะไม่มีข้อห้ามตำแหน่งประธาน ก.ล.ต.ขณะที่ผู้บริหาร ตลท.พร้อมให้ข้อมูล ด้านรายย่อยเตรียมร่วมกลุ่ม “บี” ใช้เวทีประชุมวิสามัญตะเพิดผู้บริหาร พร้อมเปิดขุมทรัพย์ 3 หมื่นล้าน ที่กลุ่มเทกโอเวอร์จ้องฮุบ
หม่อมหลวง (ม.ล.) จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA แจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 บริษัทได้รับหนังสือจากกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวนรวม 75 ราย โดยในหนังสือดังกล่าวอ้างว่าถือหุ้นในบริษัทรวมกันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 72,212,550 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 10.199 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท พร้อมทั้งเสนอระเบียบวาระการประชุมเพื่อพิจารณาและอนุมัติ ดังนี้
1.พิจารณาและอนุมัติการออกและการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยคณะกรรมการของบริษัท อาจจะพิจารณารายละเอียดอื่นๆ ตามความเหมาะสมและเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งช่วยสร้างเสริมให้บริษัท มีฐานเงินทุนที่เข้มแข็งขึ้น
2.พิจารณาและอนุมัติการเปลี่ยนรอบปีบัญชีของบริษัท จากเดิมเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม และสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน ของทุกปี ทั้งนี้ เพื่อให้รอบปีบัญชีของบริษัท เป็นไปตามรอบปีบัญชีของบริษัททั่วไปเพื่อมิให้เกิดความสับสนแก่นักลงทุนทั่วไปในการทำความเข้าใจงบการเงินของบริษัท และสามารถเทียบเคียงได้กับบริษัทอื่นๆ ที่ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน
ภายหลังจากที่บริษัท ได้รับหนังสือดังกล่าวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นแล้ว บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นหนังสือของกลุ่มผู้ถือหุ้นดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละราย และจะดำเนินการต่างๆ ตามที่กำหนดในกฎและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวต่อไป
**ตลท.พร้อมชงข้อมูล ก.ล.ต.สอบเทกโอเวอร์
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานกำกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งกำชับให้ ตลท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ผู้บริหาร TTA อ้างชื่อนายวิจิตร สุพินิจ ประธาน ก.ล.ต. เกี่ยวข้องกับการครอบงำกิจการ (เทกโอเวอร์) TTA โดยระบุว่า ข้อเท็จจริงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ หากสำนักงาน ก.ล.ต.ต้องการข้อมูลประกอบการพิจารณา ก็พร้อมที่จะส่งให้ แต่ขณะนี้ ก.ล.ต. ยังไม่ได้ขอข้อมูลอย่างเป็นทางการมาที่ ตลท. คาดว่าในส่วนของหน่วยงาน ก.ล.ต. อาจจะอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายการการถือหุ้นว่า เกินกว่า 25% หรือไม่ และการซื้อขายหุ้นเกินกว่า 25% จะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หรือไม่
**ก.ล.ต.เตรียมฟันเพิ่ม ปั่นหุ้น-อินไซด์เทรดฯ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต.เปิดเผยว่า ขณะนี้ ก.ล.ต.อยู่ระหว่าโดยจะมีการส่งหนังสือถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้ชี้แจงข้อมูล เพื่อดูว่ามีการซื้อขายหุ้นโดยไม่ได้รายงาน และเข้าข่ายต้องทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายหากมีการถือหุ้นหรือประกาศว่าจะถือหุ้นตั้งแต่ 25% ขึ้นไปจะต้องทำเทนเดอร์ฯ
นอกจากนี้ ยังจะมีการตรวจสอบเรื่องการปั่นหุ้นและการใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง) ด้วย และขอให้มั่นใจกระบวนการตรวจสอบของ ก.ล.ต.มีการถ่วงดุลอำนาจ และไม่มีการแทรกแซงจากใคร แม้แต่ตนเองในฐานะเลขาธิการ ก.ล.ต.ก็เข้าไปแทรกแซงไม่ได้และขอยืนยันว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติ
ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้มีพิจารณาความเหมาะสมของนายวิจิตร ว่า ขัดหลักธรรมาภิบาลหรือไม่นั้น นายธีระชัย กล่าวว่า ก.ล.ต.จะพิจารณาดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้ประธานและกรรมการ ก.ล.ต.มีตำแหน่งอื่น เพราะกฎหมายต้องการให้คนที่มีเข้ามามีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนในหลายๆ ด้าน
**แฉเบื้องลึก 75 รายถือหุ้น 30% โยงกลุ่มบี-วิจิตร
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า กลุ่มนักลงทุนรายย่อยจำนวน 75 ราย ที่ถือหุ้นรวมกันมากกว่า 30% ที่เรียกร้องให้มีการเปิดประชุมวิสามัญเ มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้บริหาร TTA ชี้แจงในหลายประเด็น ดังนี้ 1.บริหารงาน 6 ปี ทำไมบริษัทจึงขาดทุนมากกว่า 1.5 หมื่นล้าน บริหารเรือขนส่งสินค้า แต่มีรายได้ไม่ต่างจากเรือตังเก 2.สิ่งที่ทำให้นักลงทุนเสียหายมากที่สุดก็คือ ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทตกต่ำจากหุ้นละ 38 บาท มาเหลือหุ้นละ 18 บาท ทำให้นักลงทุนผู้ถือหุ้น TTA ขาดทุนเป็นจำนวนมาก
โดยยืนยันว่าทั้ง 2 ประเด็นนี้ ผู้บริหาร TTA จะต้องชี้แจงให้นักลงทุนเกิดความกระจ่างให้ได้ ถ้าชี้แจงได้ไม่เคลียร์ นักลงทุนเกิดความไม่พอใจ เรื่องที่หนีไม่พ้น คือ การลุกฮือขับไล่ของผู้ถือหุ้นรายย่อย ที่ส่วนใหญ่ตอนนี้เข้ามายืนอยู่ข้างกลุ่มนายบี เตชะอุบล ในฐานะแกนนำกลุ่มเทคโอเวอร์ ที่คาดว่าอยู่เบื้องหลังปลุกม็อบนักลงทุนรายย่อยขึ้นมาสู้กับกลุ่มผู้บริหาร
**เปิดขุมทรัพย์ 3 หมื่นล้าน ไขปริศนาฮุบกิจการ
รายงานข่าวเพิ่มเติมยังระบุว่า เหตุผลที่กลุ่มใหม่ต้องการเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการ เนื่อจาก TTA มีเงินสดในมือถึง 5 พันล้านบาท หากเข้าไปถือหุ้นได้ ก็จะได้เงินสดมาหมุนเวียนใช้ฟรีๆ แถมยังมีกองเรือที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย เพราะมีเรือทันสมัยมากกว่า 40 ลำ ซึ่งหากคิดจะเลิกธุรกิจเดินเรือ แค่ประกาศขายเรือ รับรองได้ว่า ทั่วโลกจะวิ่งมาแย่งซื้อกันอุตลุด เพราะทุกวันนี้ บริษัทเดินเรือทั่วโลก มีการสั่งต่อเรือจนอู่ทำส่งไม่ทัน ต้องจองล่วงหน้ากันหลายปี ซึ่งประเมินว่า ถ้าขายกองเรือของ TTA ออกไปทั้งหมด จะได้เงินมาไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ TTA ยังมีสำรองถ่านหินมากถึง 100 ล้านตัน ถ้าขุดออกมาขาย ก็จะมีรายได้เข้าบริษัท ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถ้าจะสรุปง่ายๆ คือ ถ้าใครกุมอำนาจบริหารในTTA ได้ ก็จะกุมอำนาจในการบริหารสินทรัพย์สภาพคล่องทันที มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
ดังนั้น การถือหุ้น 30% ใน TTA ซึ่งใช้เงินเพียงแค่ 7 พันล้านบาท เพื่อเข้าบริหารเงิน 3 หมื่นล้านบาท ยังไงก็สุด โดยหากเจาะเข้าไปดูในบัญชีของ TTA อาจต้องตกตะลึง เพราะไม่ต่างไปจาก National Treasure เพราะมูลค่าหุ้นที่แท้จริง (book value) ปัจจุบันอยู่ที่ 36.68 บาทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 48,621 ล้านบาท อยู่ในรูปของสินทรัพย์หมุนเวียน 11,914 ล้านบาท และเป็นส่วนของเงินสด และรายการเทียบเงินสด 4.2 พันล้านบาท
ขณะที่สินทรัพย์หมุนเวียนมีทั้งสิ้น 3.6 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์สุทธิ 2.7 หมื่นล้านบาท สำหรับภาระหนี้สินมีอยู่ทั้งสิ้น 1.6 หมื่นล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 2.5 หมื่นล้านบาท