xs
xsm
sm
md
lg

ผวาหนี้ลามยุโรป หุ้นไทยรูด19จุด-ต่างชาติเทขายต่อเนื่องอีก2.7พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นทั่วโลกกอดคอกันร่วง หวั่นวิกฤตหนี้กรีซลามทั่วยุโรป ดัชนีหุ้นไทยรูดเกือบ 19 จุด ต่างชาติเทขายต่อเนื่องอีก 2.7 พันล้านบาท ส่งผลให้เดือนพ.ค. ขายสุทธิรวมแล้วหมื่นล้านบาท ขณะที่บล.เอเซีย พลัส ประเมิน 1 เดือนก่อนเลือกตั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยทรงตัว เหตุไร้ปัจจัยบวกใหม่ - ปัญหาฟองสบู่ต่างประเทศ ส่งผลให้ระยะสั้นเงินต่างชาติไหลออก

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก ที่กังวลปัญหาหนี้กรีซอาจจะลุกลามสู่ตลาดยุโรป โดยดัชนีสูงสุดที่ระดับ 1,065.32 จุด ต่ำสุดที่ 1,053.02 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,053.97 จุด ลบ 18.97 จุด หรือคิดเป็น 1.77% มูลค่าการซื้อขายรวม 27,767.74 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,737.28 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 453.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 556.98 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 3,747.74 ล้านบาท ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. (1-23) ที่ผ่านมา มียอดขายสุทธิรวมกว่า 10,550.34 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT)ราคาปิดที่ 352 บาท ลดลง 9 บาท หรือ 2.49% มูลค่าการซื้อขาย 2,000.29 ล้านบาท บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA)ราคาปิด 23 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 3.60% มูลค่า 1,489.38 ล้านบาท และบมจ.บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ราคาปิด 46.50 บาท ลดลง 2.75 บาท หรือ 5.58% มูลค่า 1,173.66 ล้านบาท

ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นเอเชีย ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดัชนีเสตรทไทม์ ปิดที่ 3,110.48 จุด ลดลง 58.06 จุด หรือคิดเป็น 1.87% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 22,711.02 จุด ลดลง 488.37 จุด หรือ 2.15% และตลาดหุ้นโตเกียว 9,460.63 จุด ลดลง 146.45 จุด หรือ 1.52%

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากนักลงทุนต่างวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซที่อาจจะลุกลามขยายวงกว้างเข้าสู่ยุโรป หลังจากสถาบันจัดอันดับฟิทช์ เรทติ้ง ปรับลดอันดับกรีซหลายระดับ ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (24 พ.ค.) ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้าง โดยได้รับแรงหนุนจากการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นการเมือง แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,050 จุด และแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 1,065 จุด

*** ก้องเกียรติชี้หุ้นทรงตัวช่วง1เดือนก่อนเลือกตั้ง
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนก่อนเลือกตั้งจะทรงๆ ตัว เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังจากที่บริษัทจดทะเบียนมีการประกาศงบการเงิน Q1/54 ไปแล้ว ขณะที่ต่างประเทศยังคงเกิดปัญหาฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ แต่พอใกล้เลือกตั้งดัชนีตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เพื่อติดตามการจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ ทิศทางเม็ดเงินลงทุนระยะสั้นจะมีการไหลออกจากตลาดหุ้นบ้าง แต่ปัจจุบันยอดการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิต่อ แต่มีเม็ดเงินไหลเข้าไปลงทุนตราสารหนี้ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีเข้าไปลงทุนแล้วหลายแสนล้านบาท ซึ่งบล.เอเซีย พลัส ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้ 10-15% หากมีปัจจัยบวก แต่หากไม่มีปัจจัยหนุนก็จะไม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นนั้นจะเรื่องความกังวลการเติบโตผลประกอบการบจ.และ ปัจจัยเรื่องการเติบโตเศรษฐกิจโลก ส่วนปัจจัยการเมืองนั้นเป็นปัจจัยอันดับที่3ที่น่ากังวล โดยปีนี้บล.เอเซีย พลัส คาดกำไรบจ.ปีนี้โต 18%

***ชี้เพิ่มเวลาเทรดต้องรอบคอบ***
นายก้องเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีเพิ่มเวลาในการซื้อขายหุ้นอีก 1 ชั่วโมง ว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการศึกษาให้รอบคอบและชัดเจน โดยเฉพาะกรณีการเพิ่มเวลาซื้อขายจะสามารถเพิ่มมูลค่าการซื้อขายได้จริงหรือไม่ และคุ้มกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะกรณีของนักลงทุนสถาบันต่างประเทศนั้น การที่จะมีการส่งคำสั่งซื้อขายนั้นมีการแจ้งล่วงหน้าชัดเจน จะเพิ่มเวลาซื้อขายหรือไม่เพิ่มนั้นมีผลเท่ากัน โดยส่วนตัวมองว่าหากต้องการเพิ่มมูลค่าการซื้อขายนั้นควรจะเพิ่มโดยการเพิ่มสินค้าใหม่ๆในตลาดหุ้น เช่น กองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ เช่น น้ำมัน
กำลังโหลดความคิดเห็น