xs
xsm
sm
md
lg

BCPลั่นQ2มีกำไรสต็อกน้ำมัน ประกาศทุ่ม438ล้านบาทลงทุนเอทานอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บางจากฯชี้ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังลดฮวบ มั่นใจมีกำไรหากราคาน้ำมันดิบเกิน 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันอยู่แล้ว ประกาศทุ่ม 438 ล้านบาทซื้อหุ้นไทยอะโกรฯที่ผลิตเอทานอลสัดส่วน 40% ลั่นพร้อมซื้อกิจการโรงเอทานอลเพิ่มอีก

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (BCP)เปิดเผยว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ล่าสุดราคาน้ำมันดิบได้เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง อยู่ระดับกว่า 100 เหรียญสหรัญ/บาร์เรล ตราบใดที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ต่ำกว่า 90 เหรียญสหรัฐ บริษัทฯ1ยังมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน (Stock gain) เนื่องจากบริษัทฯได้มีการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันอยู่แล้ว ดังนั้นคงต้องรอดูสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในปลายปีนี้เป็นหลัก

ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ระดับสูงต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า เนื่องจากโรงกลั่นใหม่ใน 2ปีข้างหน้ายังขึ้นมาไม่มาก ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปทรงตัวระดับสูง ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าจะมีกำไรสุทธิตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยค่าการกลั่นปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

“ในไตรมาส 2นี้ไม่ว่าราคาน้ำมันจะตกลงรุนแรงแค่ไหน แต่ไนช่วงที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาดูราคาน้ำมันในช่วงเม.ย.ราคาน้ำมันดิบยังสูงระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้นหากราคาน้ำมันดิบเกิน 90เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บริษัทฯยังมีกำไรจากสต็อกน้ำมันอยู่”

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติให้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี จากบริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยอะโกรฯ และจากผู้ถือหุ้นรายย่อย มูลค่ารวม 438 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการโอนหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2554

ทั้งนี้ บริษัท ไทย อะโกรฯ ได้เริ่มดำเนินการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอลจากกากน้ำตาล กำลังการผลิต 165,000 ลิตรต่อวันมาตั้งแต่ปี 2548 และขณะนี้อยู่ระหว่างการลงทุนก่อสร้างขยายกำลังการผลิตเอทานอลที่ใช้มันเส้นเป็นวัตถุดิบ อีก 200,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปีนี้ โดยเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้มาตรฐานสูงจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจากความยืดหยุ่นของกระบวนการผลิตเอทานอลที่สามารถใช้กากน้ำตาลและมันเส้นเป็นวัตถุดิบในการผลิต ประกอบกับโรงงานมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ของประเทศ จะช่วยเพิ่มความมั่นคงในการจัดหาเอทานอลรองรับแผนการขยายการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ของตลาดบางจากฯได้ รวมทั้งมีแผนจะใช้กำลังการผลิตส่วนหนึ่งของบริษัท ไทย อะโกรฯ เป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออกขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆในเอเชียซึ่งมีความต้องการใช้เอทานอลเป็นเชื้อเพลิงและใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากด้วย เช่นจีนและเกาหลี

ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ได้ปิดโอกาสในการซื้อกิจการโรงงานผลิตเอทานอลโรงที่ 3 อีก เนื่องจากบริษัทมีความต้องการใช้เอทานอลวันละ2 แสนกว่าลิตร/วัน และจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในอีก 1-2 ปีข้างหน้า เพราะบางจากเร่งขยายปั๊มอี 20 และอี 85

“การเข้าลงทุนถือหุ้นใน ไทย อะโกรฯ ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการขยายเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวดี เพื่อเพิ่มมูลค่าของกิจการและกระจายความเสี่ยงของรายได้ และยังเป็นธุรกิจที่สนับสนุนธุรกิจหลักน้ำมันเชื้อเพลิงของบริษัท บางจากฯ ด้วยอีกทั้งสามารถใช้เป็นฐานในการขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆที่น่าสนใจในอนาคต เช่น อุตสาหกรรมไบโอเคมีคอล หรือไบโอพลาสติก เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นการสนองนโยบายรัฐในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกเชื้อเพลิง เอทานอลของภูมิภาคนี้” ดร.อนุสรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าลงทุนของบริษัท บางจากฯ (มหาชน) จะทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทย อะโกรฯ ประกอบด้วย บริษัท ลานนาฯ (มหาชน) ร้อยละ 45 บริษัท บางจากฯ (มหาชน) ร้อยละ 40 และผู้ถือหุ้นรายย่อย ร้อยละ 15 โดยก่อนหน้านี้ บริษัท บางจากฯ (มหาชน) ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด คิดเป็นร้อยละ 21.28 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น