xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.ปรับเป้าเงินเฟ้อเพิ่มจาก 3.4 เป็น 3.9% ภายใต้สมมติฐานใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แบงก์ชาติปรับเป้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มจาก 3.4 เป็น 3.9% ภายใต้สมมติฐานใหม่ค่าเฉลี่ยราคาน้ำมัน 107.7 ดอลลาร์ ต้องขยับดอกเบี้ยสกัด แต่ยังมั่นใจภาคส่งออกขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยโตตามเป้าหมายเดิม 4.1% ชี้การเลือกตั้งฉุดงบปี 55 ล่าช้าไป 4 เดือน เบิกจ่ายงบลงทุนชะงัก ด้าน สศค.เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกขยายตัวแล้ว 4%

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ปรับประมาณการตัวเลขสำคัญของเศรษฐกิจไทยใหม่ โดยในส่วนของอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยคงเดิมไว้ที่ระดับ 4.1% เนื่องจากความเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยไม่ต่างกว่าการประชุมครั้งก่อนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แต่ด้านอัตราเงินเฟ้อมีแรงกดดันชัดเจนขึ้น จากที่เพิ่มขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และขณะนี้การคาดการณ์เงินเฟ้อเริ่มมากขึ้นและกระจายออกไป

“ปีนี้เศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวกว่า 4% และปรับประมาณการเงินเฟ้อเร่งตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.9% และอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.75% ยังอยู่ในระดับต่ำและยังไม่อยู่ระดับปกติ ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ยังจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป เพื่อดูแลการคาดการณ์เงินเฟ้อไม่ให้พุ่งกระฉูดกว่าที่ควรจะเป็น พร้อมทั้งลดความเสี่ยงเกิดจากภาวการณ์เงินผ่อนคลายเป็นเวลานานต่อเนื่องด้วย”

ทั้งนี้ ธปท.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3.9% จากการประชุมครั้งก่อนที่ระดับ 3.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 2.3% จากเดิม 2.5% เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้มีโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะติดขอบบนหรือเกินเป้าหมายการดำเนินนโยบายการเงินที่ระดับ 3% เพราะเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี ทำให้ช่องว่างการผลิต (Output Gap)อยู่ใกล้เคียงหรือเท่ากับศักยภาพทางเศรษฐกิจ

ทำให้ธปท.ได้ปรับสมมติฐานค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดูไบใหม่เป็น 107.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในปี 54 หลังจากที่ขยับสมมติฐานมาตลอด 91.3 และ 98.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในเดือนม.ค.และเดือนเม.ย.ตามลำดับ และในปี 55 ขยับเป็น 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงต่อเนื่องเห็นได้จากข้อมูลราคาน้ำมันในปัจจุบันและล่วงหน้า

รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อุปสงค์จากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มเอเชีย เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จึงมีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น

ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า การเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นในช่วงกลางปีนี้เป็นเรื่องยากในการประเมินเม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามา เพราะไม่ทราบค่าใช้จ่ายแน่นอน แต่ประเด็นนี้อาจส่งผลให้งบประมาณปี 55 ล่าช้าออกไป 3-4 เดือน เนื่องจากต้องรอรัฐบาลใหม่ ทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุน โดยเฉพาะแผนการลงทุนรัฐวิสาหกิจล่าช้าออกไป แต่ในส่วนของงบประจำน่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากเนื่องจากภาครัฐจะเร่งเบิกจ่ายในระยะถัดไป เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้ว

ส่วนภัยพิบัติเกิดขึ้นในญี่ปุ่นไม่ได้กระทบเศรษฐกิจโลกขณะนี้และยังไม่กระทบรุนแรงต่อการส่งออกไทยเห็นได้จากคำสั่งซื้อต่างประเทศในอีก 3 เดือนข้างหน้าดีอยู่ จึงมองว่าการส่งออกยังเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย

“ธปท.ประมาณการว่าการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการส่งออกปีนี้เป็น 20.4% และมูลค่านำเข้า 24.6% ทำให้เกินดุลการค้า 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและคาดมีดุลบัญชีเดินสะพัด 10.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ”

***คลังเผยไตรมาสแรกขยายตัว 4%
นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลด ลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวถึง 12% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเช่นราคาน้ำมันในตลาดโลก ผันผวน แต่ก็ยังมั่นใจว่า ปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 4% แม้ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะทะลุเกินกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น