อดีตผู้บริหารการบินไทยแฉกลางผู้ถือหุ้น ถูกกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ข่มขู่รื้อคดีเก่าเล่นงาน หลังออกโรงค้านการร่วมทุนตั้ง “ไทยไทเกอร์ฯ” ด้าน “อำพน” รับปากตรวจสอบให้ ขอให้ทำหนังสือเป็นทางการ ขณะที่ “ปิยสวัสดิ์” เลี่ยงชี้แจง แต่ยืนยันเดินหน้าไทยไทเกอร์ฯตามแผน ล่าสุดผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 1.25 บาท
วานนี้ (27 เม.ย.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 โดยมี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทเป็นประธานการประชุม ซึ่ง นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ได้สอบถามถึงธรรมาภิบาลของบริษัท โดยระบุว่า ได้ถูกผู้บริหารการบินไทยข่มขู่กรณีที่ร่วมกับอดีตผู้บริหารการบินไทยเปิดแถลงข่าวคัดค้านการร่วมทุนจัดตั้งสายการบินไทยไทเกอร์ โดย นายสุเทพ กล่าวว่า มีคนใกล้ชิดของ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ติดต่อเพื่อขอให้ยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะนำเรื่องคดีเก่าที่เกี่ยวข้องออกมาดำเนินการ
นายอำพน กล่าวว่า พร้อมจะตรวจสอบและดำเนินการให้ โดยให้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการ กรณีที่ถูกข่มขู่เข้ามา เพราะผู้บริหารปัจจุบันจะข่มขู่อดีตผู้บริหารไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องพิสูจน์ว่า พฤติกรรมดังกล่าวมาจากคำสั่งของ นายปิยสวัสดิ์
ด้าน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ไม่ได้ชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่อดีตผู้บริหารบริษัท โดยกล่าวถึงกรณีการจัดตั้งสายการบินไทยไทยเกอร์ ว่า เป็นความจำเป็นของบริษัทที่จะต้องมีสายการบินต้นทุนต่ำไว้เป็นเครื่องมือในการแข่งขันในตลาดล่าง โดยยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าร่วมทุนตามแผนที่กำหนด ซึ่งปัญหาที่ทำให้การจัดตั้งไทยไทเกอร์ล่าช้า เนื่องจากการบินไทยไม่ได้รับการยกเว้นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องงลงทุน ดังนั้น จึงต้องส่งเรื่องการลงทุน 95.8 ล้านบาทไปกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน
“การบินไทยยังติดข้อห้ามของรัฐวิสาหกิจเรื่องงบลงทุน ไม่เหมือนปตท.ที่ได้รับยกเว้นทั้งหมด สามารถไปลงทุนอะไรก็ได้ไม่ต้องผ่าน ครม.” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การบินไทยมีปัญหาเพราะวางแผนดำเนินงานที่สั้นเกินไปเพียง 3 ปีเท่านั้น ซึ่งขณะนี้บริษัทได้วางแผนระยะยาว 12 ปี โดยครม.ได้อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบินปีระหว่าง 2554-2565 เป็นเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 75 ลำ วงเงิน 457,127 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
***อนุมัติปันผลหุ้นละ 1.25 บาท
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 2,728.464 ล้านบาท หรือคือเป็น 43.70% ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากงบการเงินรวม โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 20 พ.ค.2554 โดยรายได้รวมในปี 2553 มีจำนวน 184,270 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 161,581 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 15,350 ล้านบาท และเห็นชอบเงินโบนัส กรรมการ โดยคำนวณจากอัตรา 0.2% ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากงบการเงินรวม ในวงเงินรวมไม่เกิน 30 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดไว้ในอัตรา 0.5% ของเงินปันผล โดยให้ใช้อัตราดังกล่าวสำหรับการคำนวณเงินโบนัสในปีต่อไปด้วย
และอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ คนละ 50,000 บาทต่อเดือน และได้รับเบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทต่อครั้ง หากในเดือนใดมีการประชุมเกินกว่า 1 ครั้งคงให้กรรมการบริษัทได้รับเบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทเท่านั้น ส่วนประธานกรรมการจะได้รับเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการ 25% กรรมการได้รับบัตรโดยสารให้เปล่าไป-กลับชั้นหนึ่ง เส้นทางบินระหว่างประเทศปีละ 10 ใบ และเส้นทางบินในประเทศปีละ 10 ใบ โดยจะให้สิทธิดังกล่าวขณะที่ดำรงตำแหน่งกรรมการการบินไทยเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแต่งตั้งกรรมการ แทนกรรมการเดิม ที่ครบวาระ จำนวน 5 คน โดยเป็นกรรมการใหม่ 1 คน คือ นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มาดำรงตำแหน่งแทน นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ ส่วนอีก 4 คน เป็นกรรมการอีกวาระ คือ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ภัทร นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการบริษัท ฟินันซ่า และ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ถือหุ้น ระบุว่า ฝ่ายบริหารสนับสนุนให้สหภาพปิดสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ว่า ตนไม่ได้ดำเนินการตามที่ถูกกล่าวหา และบริษัทได้มีการสอบสวนภายในยุติแล้ว สรุปว่า ไม่มีความผิด อย่างไรก็ตาม การที่สหภาพได้เข้าร่วมในการชุมนุมที่ผ่านมา เนื่องจากมีการทุจริตและถูกกดดันจากการเมือง
วานนี้ (27 เม.ย.) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2554 โดยมี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัทเป็นประธานการประชุม ซึ่ง นายสุเทพ สืบสันติวงศ์ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ได้สอบถามถึงธรรมาภิบาลของบริษัท โดยระบุว่า ได้ถูกผู้บริหารการบินไทยข่มขู่กรณีที่ร่วมกับอดีตผู้บริหารการบินไทยเปิดแถลงข่าวคัดค้านการร่วมทุนจัดตั้งสายการบินไทยไทเกอร์ โดย นายสุเทพ กล่าวว่า มีคนใกล้ชิดของ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ติดต่อเพื่อขอให้ยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะนำเรื่องคดีเก่าที่เกี่ยวข้องออกมาดำเนินการ
นายอำพน กล่าวว่า พร้อมจะตรวจสอบและดำเนินการให้ โดยให้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการ กรณีที่ถูกข่มขู่เข้ามา เพราะผู้บริหารปัจจุบันจะข่มขู่อดีตผู้บริหารไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องพิสูจน์ว่า พฤติกรรมดังกล่าวมาจากคำสั่งของ นายปิยสวัสดิ์
ด้าน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ไม่ได้ชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่อดีตผู้บริหารบริษัท โดยกล่าวถึงกรณีการจัดตั้งสายการบินไทยไทยเกอร์ ว่า เป็นความจำเป็นของบริษัทที่จะต้องมีสายการบินต้นทุนต่ำไว้เป็นเครื่องมือในการแข่งขันในตลาดล่าง โดยยืนยันว่าจะต้องเดินหน้าร่วมทุนตามแผนที่กำหนด ซึ่งปัญหาที่ทำให้การจัดตั้งไทยไทเกอร์ล่าช้า เนื่องจากการบินไทยไม่ได้รับการยกเว้นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องงลงทุน ดังนั้น จึงต้องส่งเรื่องการลงทุน 95.8 ล้านบาทไปกระทรวงคมนาคมตามขั้นตอน
“การบินไทยยังติดข้อห้ามของรัฐวิสาหกิจเรื่องงบลงทุน ไม่เหมือนปตท.ที่ได้รับยกเว้นทั้งหมด สามารถไปลงทุนอะไรก็ได้ไม่ต้องผ่าน ครม.” นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา การบินไทยมีปัญหาเพราะวางแผนดำเนินงานที่สั้นเกินไปเพียง 3 ปีเท่านั้น ซึ่งขณะนี้บริษัทได้วางแผนระยะยาว 12 ปี โดยครม.ได้อนุมัติโครงการจัดหาเครื่องบินปีระหว่าง 2554-2565 เป็นเครื่องบินรุ่นใหม่จำนวน 75 ลำ วงเงิน 457,127 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
***อนุมัติปันผลหุ้นละ 1.25 บาท
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 2,728.464 ล้านบาท หรือคือเป็น 43.70% ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากงบการเงินรวม โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 20 พ.ค.2554 โดยรายได้รวมในปี 2553 มีจำนวน 184,270 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 161,581 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 15,350 ล้านบาท และเห็นชอบเงินโบนัส กรรมการ โดยคำนวณจากอัตรา 0.2% ของกำไรสุทธิก่อนผลกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากงบการเงินรวม ในวงเงินรวมไม่เกิน 30 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดไว้ในอัตรา 0.5% ของเงินปันผล โดยให้ใช้อัตราดังกล่าวสำหรับการคำนวณเงินโบนัสในปีต่อไปด้วย
และอนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ คนละ 50,000 บาทต่อเดือน และได้รับเบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทต่อครั้ง หากในเดือนใดมีการประชุมเกินกว่า 1 ครั้งคงให้กรรมการบริษัทได้รับเบี้ยประชุมคนละ 30,000 บาทเท่านั้น ส่วนประธานกรรมการจะได้รับเบี้ยประชุมสูงกว่ากรรมการ 25% กรรมการได้รับบัตรโดยสารให้เปล่าไป-กลับชั้นหนึ่ง เส้นทางบินระหว่างประเทศปีละ 10 ใบ และเส้นทางบินในประเทศปีละ 10 ใบ โดยจะให้สิทธิดังกล่าวขณะที่ดำรงตำแหน่งกรรมการการบินไทยเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแต่งตั้งกรรมการ แทนกรรมการเดิม ที่ครบวาระ จำนวน 5 คน โดยเป็นกรรมการใหม่ 1 คน คือ นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งได้มาดำรงตำแหน่งแทน นายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บริษัท ไทยออยล์ ส่วนอีก 4 คน เป็นกรรมการอีกวาระ คือ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ภัทร นายวราห์ สุจริตกุล กรรมการบริษัท ฟินันซ่า และ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย
นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ถือหุ้น ระบุว่า ฝ่ายบริหารสนับสนุนให้สหภาพปิดสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ว่า ตนไม่ได้ดำเนินการตามที่ถูกกล่าวหา และบริษัทได้มีการสอบสวนภายในยุติแล้ว สรุปว่า ไม่มีความผิด อย่างไรก็ตาม การที่สหภาพได้เข้าร่วมในการชุมนุมที่ผ่านมา เนื่องจากมีการทุจริตและถูกกดดันจากการเมือง