xs
xsm
sm
md
lg

ต้นทุนบ้านใหม่ขยับขึ้น-กดกำลังซื้อ แนวโน้มปี54ปีทองบ้านมือสอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัจจัยลบดอกเบี้ย น้ำมัน วัสดุก่อสร้างขาขึ้น ส่งต้นทุนบ้านพุ่ง ผู้ประกอบการเล็งปรับราคาบ้านใหม่ กดกำลังซื้อ ผู้บริโภคหันซื้อบ้านมือสอง บี.ซี.พีฯแจงดอกเบี้ยปรับตัวกดกำลังซื้อบ้านมือสองตลาดล่างหดตัว ขณะลูกค้ากำลังซื้อสูงไม่ได้รับผลกระทบ ดันยอดขายบ้านตลาดบนไตรมาสแรกพุ่ง ระบุได้เปรียบบ้านใหม่เหตุช่วงห่างราคาขายเฉลี่ยบ้านใหม่กับบ้านมือสอง กว่า15-20% เผยไตรมาสแรกบ้านยอดรวมโดยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า10% พร้อมตั้งเป้ายอดขายทั้งปี900ล้านบาท

นายสมศักดิ์ ชุติศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.ซี.พี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยลบจากทิศทางการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในช่วงขาขึ้น ราคาน้ำมันและการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนบ้านใหม่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับราคาขายบ้านใหม่ และบ้านมือสองที่ปัจจุบันยังมีช่วงราคาขายเฉลี่ยห่างกันกว่า 15-20% นั้นส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจซื้อบ้านมือสองมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านแนวราคาระดับราคา5ล้านบาทขึ้นไป หรือกลุ่มบ้านตลาดกลางขึ้นบนนั้นมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 10% ซึ่งยอดขายบ้านส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบ้านระดับกลางบนราคา5ล้านบาทขึ้นไปกว่า 50% ซึ่งถือว่าในปีนี้กลุ่มบ้านในตลาดระดับกลางบนนั้นมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ในขณะที่บ้านมือสองในตลาดล่างราคาต่ำกว่า3ล้านบาทนั้นมียอดขายหดตัวลงจากปีที่แล้วค่อนข้างสูงเนื่องจากกลุ่มลูกค้าระดับล่างนั้นได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยที่ยังมีทิศทางการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อลูกค้าลดลงและชะลอการตัดสินซื้อซื้อออกไป

“จากการวิเคราะห์ปัจจัยลบและความต้องการของผู้บริโภคแล้วพบว่า หากบ้านหลังใหญ่ราคาสูงในกลุ่มบ้านใหม่ปรับราคาขึ้นจะส่งผลดีต่อตลาดบ้านมือสองในระดับบนมาก เนื่องจากช่วงห่างของราคาบ้านมือสองและบ้านใหม่ในระดับเดียวกันนั้นจะมีต่างกัน15-20% และเมื่อนับรวมบ้านมือสองที่มีการตกแต่งพร้อมทั้งเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่ให้ลูกค้าแล้วจะทำให้ช่วงห่างของราคา หรือมองในมุมของลูกค้าที่จะได้ประโยชน์จากบ้านมือสองนั้นมีมูลค่าห่างกันมากว่า 20%”

อย่างไรก็ตามหากจะประเมินแนวโน้มตลาดในปีนี้จากผลการดำเนินการในช่วงไตรมาสแรกนั้นยังถือว่าเร็วไป แต่ต้องรอดูสถานกาณรืในช่วงไตรมาส2ประกอบเพื่อประเมินสถานกาณณืตลาดอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงเดือนเมษายนมีวันหยุดเยอะ และเดือนพ.ค. เองก็เป็นช่วงที่จะเปิดเทอมซึ่งลูกค้าต้องมีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของลูกๆ ซึ่งจะมีผลต่อยอดขาย ดังนั้นจะต้องรอประเมินตลาดอีกครั้งหลังช่วงไตรมาส2ของปีนี้จึงสามารถชีวัดว่าในปีนี้เป้ฯปีทองของบ้านมือสองหรือไม่

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับตลาดบ้านระดับล่างราคาต่ำกว่า 3ล้านบาทนั้น ลูกค้าได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยค่อนข้าสงมากทำให้ไม่มีกำลังซื้อมากพอจะซื้อบ้านในกลุ่มนี้ได้ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป้ฯกลุ่มพนักงานบริษัท ซึ่งลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่สามารถซื้อบ้านกลุ่มนี้ได้นั้นส่วนมากจะได้รับการอุดหนุนจากองค์กร เช่นหน่วยงานรฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากองกณในด้านดอกเบี้ย หรือการจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ระยะยาวเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้สามารถซื้อบ้านได้ ขระที่กลุ่มพนักงานบริษัทที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนที่จะซื้อบ้านระดับราคา2-3ล้านบาทนั้นเป็นเรื่องยากทำให้ในช่วงที่ผ่านมาบ้านมืองสองในตลาดระดับล่างมียอดขายไม่ดี

“ทั้งนี้ มองว่าหากไม่มีปัจจัยลบด้านอื่นๆเข้ามากระทบ ขณะที่ตลาดหุ้นยังมีทิศทางที่ดี ราคาทองคำราคาดี และดอกเบี้ยยังไม่ปรับตัวสูงนั้น เชื่อว่าในปีนี้ตลาดบ้านมือสองจะเป็นอีกปีที่สามารถขยายตัวได้สูงกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยลบที่น่าเป้นห่วงคือปัญหาการปรับตัวของราคาน้ำน ซึ่งหากมีการปรับตัวสูงมากก็จะส่งผลให้พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไปเลือกซื้อห้องชุดในแนวรถไฟฟ้า อยู่ใกล้แหล่งงานและโครงการที่มีระบบขนส่งรองรับมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขายในกลุ่มของบ้านมือสองในแนวราบแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่อยู่อาศัยอาคารชุดในปีนี้ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยและมาตรการLTV ซึ่งรัฐบาลนำมาใช้ควบคุมตลาดอาคารชุดโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงเชื่อว่าแนวโน้มตลาดบ้านแนวราบในปีนี้จึงยังขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ ในส่วนของผลดำเนินการของ บี.ซี.พี. ในปีนี้ตั้งเป้ว่าจะมียอดขายรวมที่900ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าที่มียอดขายรวม 830ล้านบาทเล็กน้อย โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายต่อเดือน65ล้านบาท ทำให้ขณะนี้บริษัทมียอดขายแล้ว195ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น