xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปรับขึ้น 8 จุด ราคาน้ำมันโตหนุนดัชนี แนะจับตาสถานการณ์โลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่ม 8 จุด ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ดันราคาหุ้นพลังงานขยับตัว โบรกฯประเมิน มีโอกาสปรับตัวไปต่อ แต่ต้องจับตาสถานการณ์ในญี่ปุ่นและตะวันออกกลางอย้างใกล้ชิด แม้คลี่คลายไปบ้าง แต่ทุกอย่างยังไม่จบ

ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (22 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 1,027.54 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 24,454.61 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,028.00 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,020.65 จุด หลายฝ่ายเชื่อการปรับขึ้นของดัชนีวานนี้ เกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จากสถานการณ์ในลิเบีย ที่ผลักดันให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยตลอดทั้งวัน มีนักลงทุนขายทำกำไรสลับกับการซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง

การซื้อขายแยกตามประเภท พบว่า นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,117.49 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ขายออกมา 56.26 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ยังซื้อสุทธิ 697.42 ล้านบาท และสถาบันซื้อสุทธิ 476.32 ล้านบาท

โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,708.85 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,413.69 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,232.12 ล้านบาท ปิดที่ 6.60 บาท ลดลง 0.60 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,188.73 ล้านบาท ปิดที่ 748.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท และ JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,143.51 ล้านบาท ปิดที่ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวกระดานหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย พบว่า ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทใหญ่ๆหลายแห่งมีผลประกอบการที่ไม่สู้ดีนัก โดยลบ 32.50 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 22,825.40 จุด หลังจากเคลื่อนไหวระหว่าง 22,797.94-22,849.23 จุด

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดเดินหน้าขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มเทคโนโลยีบางตัว จากการคาดการณ์เรื่องยอดสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากบริษัทญี่ปุ่น โดยปรับตัวขึ้น 37.04 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ระดับ 8,545.08 จุด ด้านดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดปรับตัวลดลง จากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารและโรงกลั่นน้ำมันโดยลง 1.48 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ระดับ 2,012.18 จุด

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน ปิดขึ้นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะราคาที่จูงใจ และจากการคาดการณ์ว่า กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาฯอาจได้อานิสงส์จากนโยบายบ้านเอื้ออาทร โดยปิดขึ้น 29.34 จุด หรือ 1% แตะ 2,948.48 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นพุ่ง 178.27 จุด หรือ 1.41% แตะ 12,845.53 จุด

ส่วน ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดทรุดลง จากการประกาศเตือนเรื่องการตรวจพบสารกัมมันตรังสีในน้ำประปาในกรุงโตเกียว ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ซึ่งปรับตัวลง 158.85 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 9,449.47 จุด

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น จากความกังวลเรื่องเหตุการณ์ตึงเครียดในประเทศลิเบีย และประเทศอื่นๆในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งก็ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ส่วนกลุ่มอื่นๆที่มีการลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นการเลือกเล่นหุ้นรายตัวตามข่าว

สำหรับปัจจัยภายในประเทศรอเรื่องการจ่ายปันผล และต้องติดตามเรื่องแนวโน้มการปรับเพิ่มราคาสินค้าและค่าแรงในเดือนหน้า รวมถึงการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหลักทรัพย์ในวานนี้มีการเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง โดยมีแรงซื้อสลับขายของนักลงทุนเพื่อทำกำไรตลอดช่วงเวลาเทรด แต่ปริมาณการซื้อขายถือว่าไม่มากนัก เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีมุมมองในเชิงบวกจากนักลงทุน ทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไร

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 มี.ค.) ประเมินว่า ยังคงมีการซื้อขายแบบ Side way และต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกกลางและญี่ปุ่นที่แม้จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่จบ ส่วนในปัจจัยในประเทศได้รับผลดีจากการเมืองที่มีการกำหนดเลือกตั้งชัดเจนขึ้นแล้ว ซึ่งโดยปกติก่อนเลือกตั้งตลาดหุ้นมักจะบวกขึ้นมา

ทั้งนี้ หาก Sentiment ตลาดหุ้นไทยยังดีเช่นนี้ นักลงทุนสามารถเข้ามาเก็งกำไรได้โดยสลับตัวหุ้นเพื่อลงทุนระหว่างวันและขายทำกำไร โดยให้แนวต้านที่ 1,031-1,035 จุด แนวรับที่ 1,022-1,017 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น