xs
xsm
sm
md
lg

เก็งกำไรหุ้นโรงกลั่น ดันดัชนีบวกอีก 15 จุด โบรกฯมองแค่ระยะสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หุ้นไทยพุ่ง 15 จุด รับแรงเก็งกำไรในกลุ่มโรงกลั่น-วัสดุก่อสร้าง-อาหาร ที่มาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิของญี่ปุ่น โบรกฯมองแค่ระยะสั้น แม้ขึ้นต่อก็ไม่น่าจะดีดแรง ด้าน “จรัมพร” ระบุ เม็ดเงินลงทุนญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนตลาดหุ้นไทยล่าช้ากว่าปกติ ขอ 1สัปดาห์สรุปภาพรวม

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (14 มี.ค.) ปิดที่ระดับ 1,022.89 จุด เพิ่มขึ้น 15.83 จุด หรือ 1.57% มูลค่าการซื้อขาย 31,822.14 ล้านบาท เป็นการปรับตัวขึ้นและดูดีกว่าตลาดภูมิภาค โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาด ภาพรวมนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,277.37 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันที่ซื้อสุทธิ 3,183.121ล้านบาท

ห้าอันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,100.38 ล้านบาท ปิดที่ 750.00 บาท เพิ่มขึ้น 30.00 บาท TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,865.21 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท PTTAR มูลค่าการซื้อขาย 1,837.15 ล้านบาท ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 1,787.15 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท และ SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,677.62 ล้านบาท ปิดที่ 332.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้น และดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภุมิภาคเอเชียที่มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาด ตามด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้างและกลุ่มอาหารที่ปรับตัวขึ้นมา เนื่องจากมองกันว่าน่าจะรับประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ซึ่งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน การซ่อมแซมบูรณะ และการช่วยเหลือต่างๆ ก็จะดูดีไปด้วยในช่วงสั้น

อย่างไรก็ดี ต้องรอดูว่าสถานการณ์ในญี่ปุ่นจะมีความยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน เพราะถ้าหากยืดเยื้อนานก็จะส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกได้ อีกทั้งถ้ามีการประเมินถึงการแพร่กระจายของสารกัมมันตภาพรังสี ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในญี่ปุ่นมากขึ้นไปอีก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องรอดูว่าจะถึงขั้นที่ญี่ปุ่นจะต้องดึงเงินลงทุนกลับไปฟื้นฟูประเทศด้วยหรือเปล่า ดังนั้น ระยะกลาง-ยาวยังต้องรอดูความชัดเจนของเหตุการณ์ต่างๆ ในญี่ปุ่นก่อน

ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (15 มี.ค.) ดัชนีอาจมีถอยบ้าง แม้จะปรับตัวขึ้นต่อก็ไม่น่าจะแรงเหมือนวันที่ผ่านมา เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเป็นผลบวกแค่ระยะสั้น ถ้ามีอะไรมากกว่านี้ก็จะเป็น Nagative มากกว่า จึงแนะนำแค่"เก็งกำไร"หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น และ “หลีกเลี่ยง” หุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ พร้อมให้แนวรับ 1,014-1,007 จุด แนวต้าน 1,026-1,036 จุด

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่าขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังไม่สามารถประเมินผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั่วโลกได้เพราะเร็วเกินไป โดยต้องรอดูทิศทางว่า จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร รวมถึงทิศทางสภาพคล่องเงินทุนของโลกจะไหลไปลงทุนในแหล่งใด ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

แต่จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ไปโรดโชว์ข้อมูบที่ญี่ปุ่น ซึ่งร่วมกับ บริษัท Daiwa Securities Capital Markets เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพบกับผู้จัดการกองทุนจำนวน 50-60 คน ซึ่งหลังจากโรดโชว์แล้ว กว่าที่เม็ดเงินลงทุนจากญี่ปุ่นจะเข้ามาลงทุนในช่วงปกตินั้นก็ใช้เวลาระยะหนึ่ง แต่เมื่อเกิดเหตุแผนดินไหวในญี่ปุ่นจะมีผลทำให้เม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยล่าช้ากว่าเดิม เนื่องจากผู้จัดการกองทุนต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาลงทุนมากกว่าเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น