กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดขอจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า ทั่วประเทศ มีจำนวน 5,000 ราย หรือเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 13% ขณะที่ตัวเลขการขอยกเลิกกิจการมีจำนวนไม่น้อย 639 ราย
วันนี้ (11 มี.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจดทะเบียนธุรกิจในเดือน ก.พ.2554 มีผู้ประกอบธุรกิจขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เป็นนิติบุคคล ประเภทห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัดทั่วประเทศ จำนวน 5,091 ราย แบ่งเป็นจัดตั้งในกรุงเทพฯ 2,049 ราย ส่วนภูมิภาค 3,042 ราย มีเงินทุนจดทะเบียนจำนวน 12,868 ล้านบาท นิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกคิดเป็น 27% ของการจดทะเบียนจัดตั้งทั้งหมด คือ บริการนันทนาการจำนวน 819 ราย ก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 378 ราย อสังหาริมทรัพย์ จำนวน 228 ราย
โดยสถิติจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.ปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 4,496 ราย เพิ่มขึ้น 595 ราย หรือ 13% และเมื่อเปรียบเทียบการจดทะเบียนจัดตั้งเดือน ม.ค.มีการจดทะเบียนจัดตั้งทั่วประเทศซึ่งมีจำนวน 5,307ราย ลดลง 216 ราย คิดเป็น 4%
ส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศเดือน ก.พ.มีจำนวน 639 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ จำนวน 176 ราย ภูมิภาค 463 ราย มีเงินทุนจดทะเบียน 2,852 ล้านบาท สำหรับประเภทธุรกิจที่มีจำนวนนิติบุคคลจดทะเบียนเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก คิดเป็น 21% ของการจดทะเบียนเลิกทั้งหมด คือ การก่อสร้างอาคารทั่วไปจำนวน 86 ราย อสังหาริมทรัพย์จำนวน 33 ราย ขายส่งวัสดุก่อสร้าง 20 ราย
ส่วนสถิติจดทะเบียนเลิก เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ.2553 ซึ่งมีจำนวน 744 ราย ลดลง 105 ราย คิดเป็น 14% และเมื่อเปรียบเทียบการจดทะเบียนเลิกเดือน ม.ค.ที่ผ่านมามีการจดทะเบียนเลิกทั่วประเทศซึ่งมีจำนวน 1,128 ราย ลดลง 489 ราย คิดเป็น 43%
ทั้งนี้ มีจำนวนห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญ บริษัทจำกัดคงอยู่ทั่วประเทศ มีจำนวน 534,693 ราย และบริษัทมหาชนคงอยู่ 899 ราย รวมนิติบุคคลคงอยู่ทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 535,538 ราย