“TFEX” เตรียมเทรด Single Stock Futures รุ่น 3 โดยเพิ่มหุ้นอ้างอิงอีก 16 ตัว ในกลุ่มดัชนี SET50 จาก 9 หมวดธุรกิจ เพื่อบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังปรับปรุงช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ Stock Futures ให้มีขนาดเล็กลง จากเดิม 0.1 เป็น 0.01 บาท
วันนี้ (3 มี.ค.) นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดอนุพันธ์จะจัดให้มีการซื้อขายฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัว หรือ Single Stock Futures เพิ่มเติม โดยจะเพิ่มหุ้นสามัญอ้างอิงอีก 16 ตัว ซึ่งเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มของดัชนี SET50 จาก 9 หมวดธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกในการซื้อขาย Stock Futures เพื่อบริหารความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทำกำไรได้ตามสภาวะตลาดและปัจจัยพื้นฐานของหุ้นอ้างอิงนั้น
ส่วนหุ้นสามัญอ้างอิงใหม่ 16 ตัว ได้แก่ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) จากหมวดธุรกิจการเกษตร (Agribusiness), บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) และ บมจ.ธนาคารทหารไทย (TMB) จากหมวดธนาคาร (Banking), บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) และ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) จากหมวดพาณิชย์ (Commerce) บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) จากหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy and Utilities), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) และ บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) จากหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage),บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) จากหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology), บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) จากหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (Petrochemicals and Chemicals), บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) จากหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Property Development) ,บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และ บมจ. การบินไทย (THAI) จากหมวดขนส่งและโลจิสติกส์ (Transportation and Logistics)
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงช่วงราคาซื้อขายขั้นต่ำ (Minimum Tick Size) ของ Stock Futures ให้มีขนาดเล็กลง จากเดิม 0.1 บาท เป็น 0.01 บาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อขายขั้นต่ำของหุ้นอ้างอิง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของตลาดอนุพันธ์ในต่างประเทศ โดย Tick Size ที่มีขนาดเล็กลงนี้จะส่งผลให้ส่วนต่างของราคาเสนอซื้อ/เสนอขายแคบลง อันเป็นผลดีต่อผู้ลงทุนที่จะสามารถซื้อขาย Stock Futures ได้ในราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ การปรับปรุงดังกล่าวอยู่ระหว่างการขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.
ทั้งนี้ ปัจจุบัน Stock Futures ที่มีการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ อ้างอิงกับหุ้นสามัญที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 14 ตัว โดยในปี 53 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4,006 สัญญาต่อวัน และมีปริมาณสถานะคงค้าง (Open Interest) ทั้งหมด 35,356 สัญญา
โดย Stock Futures ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ KTB Futures, ITD Futures, QH Futures, TTA Futures และ LH Futures ซึ่งอ้างอิงกับหุ้นสามัญของ บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) และ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) ตามลำดับ ทั้งนี้ หลังจากเพิ่มจำนวนหุ้นสามัญอ้างอิงใหม่อีก 16 ตัวแล้ว จะมี Stock Futures ที่อ้างอิงกับหุ้นสามัญทั้งหมด 30 ตัว