ตลาดหลักทรัพย์ ปี 53 กำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% จากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หนุนรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มเป็น 4 พันล้านบาท-มีกำไรจากการขายที่ดินบางส่วนในโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน ส่วนพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ 13,987 ล้านบาท โตเพิ่ม 2.5 พันล้าน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งผลการดำเนินงานในปี 2553 ว่า ตลาดหลักทรัพย์มีกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 671 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 146% จากปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 457 ล้านบาท และมีรายได้รวม เนื่องจากมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.80% อยู่ที่ 4,101 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,209 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพราะปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 59% อยู่ที่ 29,066 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 18,226 ล้านบาทต่อวัน และการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันที่ 18,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อนที่มี 12,771 ล้านบาท จากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย แนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินบาท สถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย
จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้จากงานชำระราคา รายได้จากการบริการบริษัทหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์มีกำไรจากการขายที่ดินบางส่วนในโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน จำนวน 422 ล้านบาท
ส่วนการที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยยวข้องกับการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 327 ล้านบาท หรือคิดเป็น 253.49% จากการจัดสรรเงิน 1 ใน 3 ของรายได้ เข้ามูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทุกปี โดยในปี 2553 ตลาดหลักทรัพย์มีการจัดสรรเงินเข้ามูลนิธิจำนวน 467 ล้านบาท
สำหรับเงินลทุนในปี 2553 อยู่ที่ 13,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,550 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.30% จากปีก่อนที่มีจำนวน 11,437 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากเงินรับจากการขายที่ดินบางส่วนของโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน และการปรับเพิ่มขึ้นในมูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์มีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 5,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 423 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.66% เพราะจากการที่ตลาดหลักทรัพย์มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายในปี 2553
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งผลการดำเนินงานในปี 2553 ว่า ตลาดหลักทรัพย์มีกำไรสุทธิ 1,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 671 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 146% จากปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 457 ล้านบาท และมีรายได้รวม เนื่องจากมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.80% อยู่ที่ 4,101 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,209 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพราะปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้น 59% อยู่ที่ 29,066 ล้านบาท จากปีก่อนที่อยู่ที่ 18,226 ล้านบาทต่อวัน และการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันที่ 18,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากปีก่อนที่มี 12,771 ล้านบาท จากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย แนวโน้มการแข็งค่าของค่าเงินบาท สถานการณ์ทางการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมถึงมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย
จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ และรายได้จากงานชำระราคา รายได้จากการบริการบริษัทหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์มีกำไรจากการขายที่ดินบางส่วนในโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน จำนวน 422 ล้านบาท
ส่วนการที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยยวข้องกับการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 327 ล้านบาท หรือคิดเป็น 253.49% จากการจัดสรรเงิน 1 ใน 3 ของรายได้ เข้ามูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทุกปี โดยในปี 2553 ตลาดหลักทรัพย์มีการจัดสรรเงินเข้ามูลนิธิจำนวน 467 ล้านบาท
สำหรับเงินลทุนในปี 2553 อยู่ที่ 13,987 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,550 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.30% จากปีก่อนที่มีจำนวน 11,437 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากเงินรับจากการขายที่ดินบางส่วนของโครงการศูนย์ธุรกิจตลาดทุน และการปรับเพิ่มขึ้นในมูลค่ายุติธรรมของหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์มีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 5,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 423 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.66% เพราะจากการที่ตลาดหลักทรัพย์มีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายในปี 2553