“บล.ไทยพาณิชย์” ยังมั่นใจสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยปีนี้ ไม่ปรับมุมมองเชิงบวก ที่เคยประเมินไว้ว่าดัชนีจะพุ่งขึ้นไปสู่ 1,200 จุด แม้ขณะนี้หุ้นไทยจะปรับตัวลดลง แต่เชื่อเป็นแค่การปรับฐาน โดยปัจจัยที่พาตลาดหุ้นไทยคึกคักอีกครั้ง คือ ค่าพี/อี ที่อยู่ในระดับไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น รวมทั้งตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนน่าจะช่วยล่อใจนักลงทุนได้
วันนี้ (10 ก.พ.) นายเกียรติศักดิ์ เจนวิภากุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรับมุมมองดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้จากที่ประเมินไว้ในระดับ 1,200 จุด แม้ว่าในช่วงนี้ดัชนี SET จะปรับลดลง แต่ก็เป็นการปรับฐานจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาดัชนีปรับเพิ่มขึ้นเร็วมากกว่า 40-50% อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันเชื่อว่าดัชนีจะไม่หลุด 950 จุด
ทั้งนี้ สาเหตุที่เชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังน่าจะไปได้ถึง 1,200 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% เนื่องจากค่าพี/อี ที่อยู่ในระดับราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่า ในปีนี้จะเติบโต 15% ยังเป็นแรงจูงใจในการลงทุน แต่ก็ยอมรับว่าประเด็นทางการเมืองอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่กดดันตลาดหุ้นไทย แต่ไม่ใช้เหตุผลหลักที่ทำให้ดัชนีปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 3 เดือนนี้ ตลาดหุ้นอาจจะปรับลดลงราว 10-15% เกิดจากการปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เพื่อย้ายเงินลงทุนไปยังฝั่งสหรัฐและยุโรปที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากก่อนหน้าที่เม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม แต่เชื่อว่า การฟื้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะกลับมาในช่วงไตรมาส 2/53 ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากระทบ เพราะตลาดหุ้นไทยยัง Undervalue ซึ่งแม้ว่าแนวโน้มดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ก็คงเกิดความผันผวนเป็นระยะ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจะอยู่ที่เลือกจังหวะการลงทุนให้เหมาะสม
“การที่ตลาดร่วงมา 10% มาอยู่ที่ 950 จุด จากช่วงพีก 1,050 จุด ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะต้องเข้าใจด้วยว่าที่ผ่านมาหุ้นขึ้นแรงมากก็เป็นธรรมดา เชื่อว่า ยังไปที่เราประเมินได้แน่นอน เพราะความน่าสนใจยังมีอยู่ โดยเฉพาะกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเป็นแรงจูงใจ” นายเกียรติศักดิ์ กล่าว
