xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยฮั้วยางพารา” เตรียมเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ ตั้งเป้าโต 5 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต
“ไทยฮั้วยางพารา” คาดเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปีนี้ โดยอาจจะเป็นช่วงไตรมาส 3-4 ซึ่งในปีนี้ ตั้งเป้าเติบโต 5 หมื่นล้าน มองทิศทางราคายางพาราพุ่งสูงขึ้น ปี 54 มีโอกาสโตไม่ต่ำกว่า 30% จ่อทุ่ม 1 พันล้าน สร้างโรงงาน 4 แห่ง รองรับการขยายตัว

วันนี้ (8 ก.พ.) นายหลักชัย กิตติพล ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยฮั้วยางพารา กล่าวว่า จะสามารถกระจายหุ้นและเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ SET ในช่วงปลายไตรมาส 3/54 หรือต้นไตรมาส 4/54 เพื่อระดมเงินทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งบริษัทได้แต่งตั้ง บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมยื่นแบบแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทมีแผนออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 20-25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วที่ 1,650 ล้านบาท วัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจยางพารา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ

นายหลักชัย กล่าวอีกว่า ในปี 2554 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตมาที่ 5 หมื่นล้านบาท จากปี 53 ทำได้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคายางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยมองว่าในปีนี้ราคายางพารายังจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และมีโอกาสสูงถึง 200 บาท/กิโลกรัม จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 170 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากความต้องการในตลาดมีมากขึ้น คาดว่าราคายางพาราเฉลี่ยในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 105 บาท/กิโลกรัม

“ถ้าราคายางยังขึ้นไม่หยุด รายได้เราคงมากกว่า 5 หมื่นล้านบาท อาจถึง 6 หมื่นล้านบาท กำไรก็น่าจะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 500 ล้านบาท ปีนี้ราคา 200 บาท/กิโลฯ น่าจะมีโอกาสเห็น แต่เราก็ไม่อยากให้ขึ้นแรงเพราะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ คิดว่าที่ราคา 150-180 บาท เป็นระดับที่เหมาะสม” นายหลักชัย กล่าว

โดยบริษัทคาดว่า ในปี 2555 รายได้และกำไรของบริษัทจะปรับตัวสูงขึ้นมาก เนื่องจากสวนยางของบริษัทจะถึงเวลากรีดน้ำยางได้มากขึ้น คาดว่าจะมีรายได้จากสวนยางของตัวเองไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปี 2554 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 1 พันล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการสร้างโรงงานใหม่ 4 แห่ง โดยโรงงานผลิตยางแท่งและยางแผ่นรมควันที่ จ.บุรีรัมย์จะสร้างแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.54, โรงงานที่ จ.พิษณุโลก คาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.54 รวมทั้ง โรงงานผลิตน้ำยางข้นอีก 2 โรง นอกจากนั้น จะมีการขยายและต่อเติมโรงงานเดิมที่ จ.หนองคาย อีก 1 โรง

ด้าน นางสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บล.ธนชาต กล่าวว่า หุ้น IPO ของไทยฮั้วฯ น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทแตกต่างจากบริษัทยางพาราอื่น ๆ เพราะมีสวนยางเป็นของตัวเอง ทำให้รายได้ค่อนข้างมั่นคง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นไฟลิ่ง

ทั้งนี้ ในส่วนของ บล.ธนชาต มีดีล IPO ในมือ 4 ดีล รวมไทยฮั้วฯ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเข้าเทรดภายในปีนี้ได้ทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น