“กรณ์” ชี้ การชดเชยราคาดีเซล ต้องดูเสถียรภาพกองทุน แนะการบริหารต้องไม่ให้มีวงเงินติดลบเหมือนในช่วงที่ผ่านมา พร้อมยอมรับห่วงเหตุการณ์ปะทะไทย-เขมร คาดกระทบแค่การค้าชายแดน แต่ภาพรวมยังดี
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทนั้น คงจะต้องมีการนำเหตุผลหลายส่วนมาประกอบกัน ทั้งราคาตลาดโลก และผลกระทบต่อภาคการขนส่ง เพื่อไม่ให้มีการใช้น้ำมันมากจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ทางภาครัฐบาลจะดูแลราคาน้ำมันตามความเหมาะสม โดยยึดหลักเสถียรภาพของกองทุนน้ำมันเป็นหลัก และจะมีการบริหารไม่ให้มีวงเงินติดลบเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้กองทุนน้ำมันจะมีการดูแลราคาได้อีกเพียง 9 วัน หลังการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) แต่ทางภาครัฐจะมีการประชุมเพื่อหารือในเรื่องนี้อีกครั้งภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นี้
ส่วนปัญหาระหว่างชายแดนไทยกับกัมพูชาที่มีการปะทะกันเกิดขึ้นนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ตนเองมีความกังวลในความเป็นอยู่ของประชาชน และการค้าในเขตชายแดนมากกว่า เนื่องจากประเทศไทยทำการค้าชายแดนกับกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบดุลการค้า
“หากมีการปิดด่านเกิดขึ้น ก็อาจทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในรอยต่อระหว่าง 2 ประเทศ แต่ในภาพรวมนั้น คงยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย”
อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศโดยเร็ว เพื่อลดปัญหา และไม่อยากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะอาจทำให้การเจรจาในอนาคตมีความยากลำบากมากขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ แต่กลังจะเสียประโยชน์มากกว่า หากหยิบยกมาเป็นประเด็นทางการเมือง ก็จะทำให้ในที่สุดกัมพูชาจะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์มากกว่าไทย
