“กสิกรไทย” จับมือ “ธนาคารชิสึโอกะ” ซึ่งเป็นแบงก์ท้องถิ่นใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เพื่อขยายความสัมพันธ์และบริการทางเงินให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการฝาก สินเชื่อ การโอน โดยเฉพาะการบริหารจัดการด้านเงินแก่บริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทย ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 100 ราย คาดความต้องการสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
วันนี้ (4 ก.พ.) นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้ขยายความสัมพันธ์และการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น โดยได้ลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารชิสึโอกะ ธนาคารท้องถิ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยธนาคารกสิกรไทยจะเป็นผู้ให้บริการทางด้านการเงินแบบครบวงจร ทั้งด้านเงินฝาก สินเชื่อ เงินโอน และการบริหารจัดการด้านการเงินแก่บริษัทญี่ปุ่นซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารชิสึโอกะที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยขณะนี้มีไม่ต่ำกว่า 100 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และคาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มนักลงทุนที่สนใจในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ที่ผ่านมาธนาคารได้จัดตั้งฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ ศูนย์สารสนเทศธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น และสำนักงานผู้แทนพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว เพื่อให้ข้อมูลและดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งมีทีมเจ้าหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ลูกค้าญี่ปุ่นถึง 30 คน ซึ่งมากที่สุดของธนาคารไทยในขณะนี้ ดังนั้น จึงมั่นใจว่า จะสามารถให้บริการที่มีคุณภาพแก่กลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นได้ โดยตั้งเป้าที่จะเป็นธนาคารไทยในใจนักลงทุนญี่ปุ่น (The Most Preferred Thai Local Bank) และจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นในไทยเป็น 18% ภายในปี 2555 รวมทั้งมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย
นอกจากนี้ ธนาคารยังเคยลงนามร่วมกับ 13 สถาบันการเงินญี่ปุ่นในการเปิดให้บริการทางการเงินแก่บริษัทของญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยไปเมื่อปลายปี 2553 ที่ผ่านมา โดยธนาคารชิสึโอกะถือเป็นอีกหนึ่งสถาบันการเงินที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในการขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่นของธนาคารในระยะยาวให้เพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายคะสึโนริ นาคานิชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารชิสึโอกะ กล่าวว่า ธนาคารชิสึโอกะเล็งเห็นความสำคัญในการให้บริการลูกค้าของธนาคารที่มีแนวโน้มออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น จึงได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์สนับสนุนการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะมีบริการให้คำปรึกษาและข้อมูล การจัดการกฎหมายและภาษี สนับสนุนทางการเงินระหว่างบริษัทแม่ในญี่ปุ่น และเครือข่ายที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องประสานกับสถาบันการเงินท้องถิ่นในการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าของธนาคาร
โดยธนาคารต้องการตอบโจทย์ลูกค้าธนาคารชิสึโอกะให้ครอบคลุม ทั้งยังมีการสร้างเครือข่ายทำให้เกิดการแนะนำลูกค้าระหว่างกันมากขึ้น (Business matching) การแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เช่น ข้อมูลการลงทุน เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ข้อมูลตลาดเงินและตลาดทุน ลูกค้าชาวญี่ปุ่นในประเทศไทยที่ธนาคารชิสึโอกะ แนะนำมาก็จะได้รับการดูแลจากผู้จัดการความสัมพันธ์ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับการตอบสนองในทุกความต้องการเช่นเดียวกับลูกค้าไทย นับเป็นการให้บริการที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย เนื่องจากธนาคารชิสึโอกะก็ไม่มีสาขาในไทย ทำให้การบริการลูกค้าเองโดยลำพังนั้นไม่ครอบคลุมเพียงพอ
สำหรับความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกสิกรไทยในครั้งนี้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยจะได้รับบริการทางการเงินและการดูแลอย่างจริงจังจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของไทยด้วยคุณภาพการให้บริการระดับมาตรฐานโลก
อนึ่ง ธนาคารชิสึโอกะเป็นธนาคารท้องถิ่นของญี่ปุ่น มีบริษัทในเครือ 12 บริษัท มีลูกค้าสินเชื่อกว่า 23,000 ราย โดยฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในจังหวัดชิสึโอกะ และในเมืองธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น อาทิ โตเกียว โอซาก้า และนาโกย่า ปัจจุบันมีสาขาหลักกว่า 168 สาขา และ 23 สาขาย่อย นอกจากนี้ ยังมีสาขาในต่างประเทศที่ลอสแอนเจลิส นิวยอร์คและฮ่องกง สำนักงานตัวแทนที่สิงคโปร์และเซี่ยงไฮ้ และบริษัทสาขาที่บรัสเซลด้วย