“KBANK” ผุดแคมเปญ “K-Mobile Banking SMS” ขยายฐานลูกค้าเติมเงินผ่านมือถือ หลังปัจจุบันมีคนใช้ 70 ล้านเลขหมายที่ทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือ ขณะที่ยอดใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว ปี 53 พุ่งทะลุ 2.3 ล้านราย ปี 54 มุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่
วันนี้ (10 ม.ค.) นายอาจ วิเชียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทุกค่ายรวมกันมากกว่า 70 ล้านเลขหมาย ทำให้มีการพัฒนาโทรศัพท์มือถือให้เป็นเครื่องมือในการทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย รวมทั้งการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ (K-Mobile Banking) และมีการพัฒนาบริการให้สามารถใช้ได้กับโทรศัพท์มือถือทุกค่าย ทำให้ยอดผู้ใช้บริการในปี 53 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุ 2.3 ล้านราย โดยเฉพาะบริการ K-Mobile Banking SMS ซึ่งเติบโตจากปี 52 กว่า 100% ทำให้ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ
ขณะที่ ปี 54 ธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้บริการที่เป็นคนรุ่นใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะบริการเติมเงินมือถือด้วยการส่ง SMS ตัดเงินจากบัญชีที่เปิดใช้บริการ (K-Mobile Banking SMS) ซึ่งสามารถให้บริการเติมเงินกับเบอร์ของตนเอง และเบอร์ของบุคคลอื่นได้ครบทุกค่าย คือ เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ และ ฮัทช์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการเติมเงินโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปซื้อบัตร หรือหาตู้เติมเงิน
ทั้งนี้ ธนาคารได้ออกแคมเปญ “K-Mobile Banking SMS เติม มี เฮ เติมเงินมือถือให้กับเบอร์ตนเองทุกค่ายเฮรับ 300 บาท” เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าที่ไม่เคยใช้บริการมาสมัครเติมเงินผ่าน K-Mobile Banking SMS เพื่อรับสิทธิ์เงินโอนเข้าบัญชีสูงสุด 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. - 15 ก.ค.54 ทั้งนี้ หมายเลขบัญชีที่มียอดการเติมเงินโทรศัพท์มือถือให้กับเบอร์ตนเองสูงสุด 2,000 ท่านแรกในแต่ละเดือน จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชี 50 บาทต่อเดือน โดย 1 หมายเลขบัญชี สามารถรับเงินโอนเข้าบัญชีได้สูงสุด 300 บาท
สำหรับบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยยังคงมีศักยภาพสูง และสามารถขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งทางธนาคารเองก็ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาบริการดังกล่าวอย่างไม่หยุดยั้ง โดยขณะนี้สามารถรองรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายหลักทุกค่ายได้ และสามารถรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตได้ และคาดว่าในอนาคตการทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะได้รับความนิยมจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับที่ลูกค้านิยมใช้เครื่องเอทีเอ็มในปัจจุบัน