ม็อบเสื้อแดงฉุดแผนพันธมิตรซื้อนวลิสซิ่งยื้อไปอีก 2 เดือน "รัตนชัย" ยันแผนหลังควบรวมยกระดับเป็นสถาบันการเงินเพื่อการขนส่ง ใช้เม็ดเงิน 2-3 หมื่นล้าน ผู้ถือหุ้นใหญ่ "เจียรวนนท์-พันธ์สายเชื้อ" กำลังเร่งเจรจา
นายรัตนชัย นันทปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NVL เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการร่วมทุนกับพันธมิตรว่า ขั้นตอนการเจรจายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะล่าช้ากว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีความวุ่นวายจากม็อบกลุ่มคนเสื้อแดงที่ส่อความรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือน พันธมิตรจึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการตัดสินใจออกไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ประเมินว่าในขณะนี้การแข่งขันธุรกิจลิสซิ่งสูงมาก โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด เน้นการแข่งขันทางด้านราคาและอัตราดอกเบี้ย บริษัทฯ จึงมีนโยบายชัดเจนว่าจำเป็นต้องหาพันธมิตรประเภทสถาบันการเงินเข้ามาร่วมลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าเป็นสถาบันการเงินในประเทศหรือต่างประเทศ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้เรียกผู้บริหารไปตักเตือนในการให้ข้อมูลดังกล่าว
"พันธมิตรของเราเป็นสถาบันการเงิน แต่ผมไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ เพราะเป็นมติของผู้ถือหุ้นบริษัท ผมเป็นเพียงผู้ที่นำส่งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาควบรวม โดยในวันที่ 23 เมษายนนี้ จะมีการนัดประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีการหยิบยกประเด็นการร่วมทุนเข้ามาร่วมหารือในที่ประชุมด้วย" นายรัตนชัยกล่าวและว่า ตระกูลเจียรวนนท์และตระกูลพันธ์สายเชื้อซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนการเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมาเป็นจำนวนเงินแค่น้อยนิดเท่านั้น เนื่องจากการร่วมทุนครั้งนี้จะใช้เม็ดเงินถึง 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีศักยภาพเพียงพอต่อพันธกิจหลักของนวลิสซิ่งในอนาคต
"เป้าหมายหลังจากการควบรวมกับพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานให้เป็นสถาบันการเงินเพื่อการขนส่ง เน้นการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับยานพาหนะเพื่อขนส่งทุกประเภท" กรรมการผู้จัดการ NVL ระบุ
***ลิสซิ่งคึกแย่งตัวบุคลากร
นายรัตนชัยกล่าวด้วยว่า การที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่เข้ามาแข่งขันในธุรกิจลิสซิ่ง ทำให้ขาดแคลนบุคลากรที่มีความชำนาญ บริษัทฯ จึงเจอปัญหาสมองไหล เนื่องจากนวลิสซิ่งมีความชำนาญในธุรกิจเช่าซื้อรถมานาน ที่ผ่านมาผู้บริหารและพนักงานของนวลิสซิ่งถูกซื้อตัวกว่า 80 คน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน บริษัทฯ จึงต้องเร่งสร้างคนใหม่เข้ามาทดแทน
"ผมเข้าใจเรื่องการแข่งขันและยินดีที่คนของเราส่วนใหญ่ไปได้ดี หลายคนยังติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ เป็นประโยชน์กับบริษัท ส่วนตัวผม ยืนยันว่าจะจงรักภักดีกับนวลิสซิ่งตราบนานเท่านาน" นายรัตนชัยกล่าว
นายรัตนชัย นันทปราโมทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NVL เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการร่วมทุนกับพันธมิตรว่า ขั้นตอนการเจรจายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะล่าช้ากว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีความวุ่นวายจากม็อบกลุ่มคนเสื้อแดงที่ส่อความรุนแรงตั้งแต่ต้นเดือน พันธมิตรจึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการตัดสินใจออกไป
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ประเมินว่าในขณะนี้การแข่งขันธุรกิจลิสซิ่งสูงมาก โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด เน้นการแข่งขันทางด้านราคาและอัตราดอกเบี้ย บริษัทฯ จึงมีนโยบายชัดเจนว่าจำเป็นต้องหาพันธมิตรประเภทสถาบันการเงินเข้ามาร่วมลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าเป็นสถาบันการเงินในประเทศหรือต่างประเทศ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้เรียกผู้บริหารไปตักเตือนในการให้ข้อมูลดังกล่าว
"พันธมิตรของเราเป็นสถาบันการเงิน แต่ผมไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ เพราะเป็นมติของผู้ถือหุ้นบริษัท ผมเป็นเพียงผู้ที่นำส่งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาควบรวม โดยในวันที่ 23 เมษายนนี้ จะมีการนัดประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งจะมีการหยิบยกประเด็นการร่วมทุนเข้ามาร่วมหารือในที่ประชุมด้วย" นายรัตนชัยกล่าวและว่า ตระกูลเจียรวนนท์และตระกูลพันธ์สายเชื้อซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะเจรจากับพันธมิตรรายใหม่ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ส่วนการเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของพันธมิตรในช่วงที่ผ่านมาเป็นจำนวนเงินแค่น้อยนิดเท่านั้น เนื่องจากการร่วมทุนครั้งนี้จะใช้เม็ดเงินถึง 2-3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีศักยภาพเพียงพอต่อพันธกิจหลักของนวลิสซิ่งในอนาคต
"เป้าหมายหลังจากการควบรวมกับพันธมิตรเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานให้เป็นสถาบันการเงินเพื่อการขนส่ง เน้นการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับยานพาหนะเพื่อขนส่งทุกประเภท" กรรมการผู้จัดการ NVL ระบุ
***ลิสซิ่งคึกแย่งตัวบุคลากร
นายรัตนชัยกล่าวด้วยว่า การที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่เข้ามาแข่งขันในธุรกิจลิสซิ่ง ทำให้ขาดแคลนบุคลากรที่มีความชำนาญ บริษัทฯ จึงเจอปัญหาสมองไหล เนื่องจากนวลิสซิ่งมีความชำนาญในธุรกิจเช่าซื้อรถมานาน ที่ผ่านมาผู้บริหารและพนักงานของนวลิสซิ่งถูกซื้อตัวกว่า 80 คน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน บริษัทฯ จึงต้องเร่งสร้างคนใหม่เข้ามาทดแทน
"ผมเข้าใจเรื่องการแข่งขันและยินดีที่คนของเราส่วนใหญ่ไปได้ดี หลายคนยังติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ เป็นประโยชน์กับบริษัท ส่วนตัวผม ยืนยันว่าจะจงรักภักดีกับนวลิสซิ่งตราบนานเท่านาน" นายรัตนชัยกล่าว