สหภาพฯ "ทีโอที-กสท" เดินหน้าค้านร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ หลังต้องนำรายได้จากสัมปทานส่ง กสทช.แทน เล็งยื่นฟ้องศาล รธน.หาก กม.ผ่านวุฒิสภา
มีรายงานข่าวว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะร่วมกันต่อต้านมาตรา 78 วรรค 3 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ... ที่ระบุว่าหลังจากที่กฎหมายบังคับใช้ 1 ปี สองหน่วยงานจะต้องนำรายได้ที่ได้รับจากสัญญาสัมปทานหลังหักค่าใช้จ่ายส่งคืนให้แก่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อนำเงินดังกล่าวคืนแผ่นดินต่อไป จากเดิมที่ ทีโอที และ กสทฯ เป็นผู้นำรายได้ดังกล่าวส่งให้กับกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ มองว่าข้อกฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 305 ที่ระบุว่าองค์กรอิสระซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมไทยนั้น มีเพียงองค์กรเดียวคือ กสทช. ซึ่งไม่มั่นใจว่าหลังจาก พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ มีผลบังคับแล้วและกสทช. ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามกำหนดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ก็ต้องทำหน้าที่แทน ทั้งที่อำนาจหน้าที่มีเพียงการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในประเทศ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจหรือจัดเก็บรายได้ ประกอบกับปัจจุบัน กทช. ก็มีปัญหาอยู่แล้วเรื่องการออกใบอนุญาต (ไลเซนส์) 3 จี
อย่างไรก็ตาม สหภาพฯ ได้ยื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว และหนังสือดังกล่าวยังได้ส่งมอบถึง ส.ส. ทั้งหมด เพื่อให้มีส่วนช่วยในการยับยั้ง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว แต่หาก พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว สามารถผ่านการพิจารณาและไปถึงวุฒิสภา สหภาพฯ จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที
ด้านนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในฐานะสมาชิกอนุกรรมาธิการศึกษากฎหมายการกำกับดูแล กิจการโทรคมนาคม และการสื่อสาร ในคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า กทช. จะทำหน้าที่เหมือนเป็นบุรุษไปรษณีย์ในการนำส่งรายได้ให้กับรัฐเท่านั้น โดยทีโอทีและ กสท จะยังเป็นผู้หักค่าใช้จ่าย 3 ส่วนออกก่อนนำส่งตามมาตรา 78 วรรค 3 คือ 1.ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ส่วนที่ทีโอทีและ กสท จ่ายแทน 2.ค่าบริการอย่างทั่วถึง ส่วนที่ทีโอทีและ กสท จ่ายแทน และ 3.ค่าบริหารจัดการสัมปทาน
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าการพิจารณา พ.ร.บ.องค์กรคลื่นฯ ถูกกำหนดให้อยู่ในวาระที่ 2 ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าบรรยากาศในสภาฯ พร้อมที่จะพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ โดยเฉพาะหากไม่มีการนำสถานการณ์การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หากสามารถผ่านการพิจารณาของสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ได้ และผ่านเข้าสู่ขั้นตอนของวุฒิสภา ก็น่าจะแล้วเสร็จได้ภายในปลายปีนี้และจากนั้นจะถึงขั้นตอนการคัดเลือกกสทช ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จได้ภายในกลางปี 2554
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ สหภาพฯทีโอที ได้จัดโครงการเสวนาให้ความรู้แก่สมาชิกเรื่อง "ร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ โดยเฉพาะมาตรา 78 วรรค 3 ที่ส่งผลกระทบต่อรัฐวิสาหกิจ" ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคาร 5 ทีโอที โดยอยู่ระหว่างทาบทามนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ร่วมเป็นวิทยากร
มีรายงานข่าวว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และสหภาพแรงงานของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จะร่วมกันต่อต้านมาตรา 78 วรรค 3 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ... ที่ระบุว่าหลังจากที่กฎหมายบังคับใช้ 1 ปี สองหน่วยงานจะต้องนำรายได้ที่ได้รับจากสัญญาสัมปทานหลังหักค่าใช้จ่ายส่งคืนให้แก่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อนำเงินดังกล่าวคืนแผ่นดินต่อไป จากเดิมที่ ทีโอที และ กสทฯ เป็นผู้นำรายได้ดังกล่าวส่งให้กับกระทรวงการคลัง
นอกจากนี้ มองว่าข้อกฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 305 ที่ระบุว่าองค์กรอิสระซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมไทยนั้น มีเพียงองค์กรเดียวคือ กสทช. ซึ่งไม่มั่นใจว่าหลังจาก พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ มีผลบังคับแล้วและกสทช. ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามกำหนดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ก็ต้องทำหน้าที่แทน ทั้งที่อำนาจหน้าที่มีเพียงการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมในประเทศ โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจหรือจัดเก็บรายได้ ประกอบกับปัจจุบัน กทช. ก็มีปัญหาอยู่แล้วเรื่องการออกใบอนุญาต (ไลเซนส์) 3 จี
อย่างไรก็ตาม สหภาพฯ ได้ยื่นหนังสือถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว และหนังสือดังกล่าวยังได้ส่งมอบถึง ส.ส. ทั้งหมด เพื่อให้มีส่วนช่วยในการยับยั้ง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว แต่หาก พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว สามารถผ่านการพิจารณาและไปถึงวุฒิสภา สหภาพฯ จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญทันที
ด้านนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ในฐานะสมาชิกอนุกรรมาธิการศึกษากฎหมายการกำกับดูแล กิจการโทรคมนาคม และการสื่อสาร ในคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า กทช. จะทำหน้าที่เหมือนเป็นบุรุษไปรษณีย์ในการนำส่งรายได้ให้กับรัฐเท่านั้น โดยทีโอทีและ กสท จะยังเป็นผู้หักค่าใช้จ่าย 3 ส่วนออกก่อนนำส่งตามมาตรา 78 วรรค 3 คือ 1.ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ส่วนที่ทีโอทีและ กสท จ่ายแทน 2.ค่าบริการอย่างทั่วถึง ส่วนที่ทีโอทีและ กสท จ่ายแทน และ 3.ค่าบริหารจัดการสัมปทาน
ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าการพิจารณา พ.ร.บ.องค์กรคลื่นฯ ถูกกำหนดให้อยู่ในวาระที่ 2 ในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าบรรยากาศในสภาฯ พร้อมที่จะพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ โดยเฉพาะหากไม่มีการนำสถานการณ์การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม หากสามารถผ่านการพิจารณาของสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ได้ และผ่านเข้าสู่ขั้นตอนของวุฒิสภา ก็น่าจะแล้วเสร็จได้ภายในปลายปีนี้และจากนั้นจะถึงขั้นตอนการคัดเลือกกสทช ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จได้ภายในกลางปี 2554
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 23 มีนาคมนี้ สหภาพฯทีโอที ได้จัดโครงการเสวนาให้ความรู้แก่สมาชิกเรื่อง "ร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ โดยเฉพาะมาตรา 78 วรรค 3 ที่ส่งผลกระทบต่อรัฐวิสาหกิจ" ตั้งแต่เวลา 9.00-12.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคาร 5 ทีโอที โดยอยู่ระหว่างทาบทามนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ร่วมเป็นวิทยากร
