รมช.คลังห่วงขั้นตอนปล่อยสินเชื่อบ้านอืด จี้แบงก์พาณิชย์เร่งอนุมัติผู้ที่ยื่นเรื่องแล้ว และผู้ที่อยู่ระหว่างการรออนุมัติ หวั่นผู้มีรายได้น้อยพลาดสิทธิ ก่อนสิ้นสุดมาตรการภาษี 26 มี.ค.นี้ ธอส.โชว์ฟาสต์แทร็กอนุมัติภายใน 7 วัน ทำนิติกรรม 3 วัน หากมีความจำเป็น ก็จะเปิดให้บริการในวันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย ด้านกรมที่ดินอัด จนท.เต็มอัตราก่อนปิดทำการ 16.30 น.
กรณีที่มาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2553 เนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ต่ออายุมาตรการฯ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประชาชนอาจเข้าใจผิดว่ามาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงวันดังกล่าวตรงกับวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดราชการ ดังนั้นวันสุดท้ายของมาตรการคือวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม ผู้ประกอบการและลูกค้าที่ซื้อขายและโอนบ้านจึงควรรับทราบข้อมูลและเร่งดำเนินการให้ทันเวลา
ทั้งนี้ เกรงว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะพลาดโอกาสในการใช้สิทธิตามมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะจากผลของความล่าช้าที่อาจจะเกิดขึ้นจากขั้นตอนของธนาคารพาณิชย์ในเรื่องการอนุมัติสินเชื่อบ้าน จึงอยากให้ธนาคารเร่งอนุมัติสินเชื่อบ้านให้แก่ประชาชนที่ยื่นเรื่องเข้ามาแล้วและอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ
"ผมได้มีการประสานไปยังแบงก์พาณิชย์ ให้เร่งดำเนินการในการอนุมัติสินเชื่อ และการทำนิติกรรม (ฟาสต์แทร็ก) ตลอดจนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจตรงกันถึงระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวในวันที่ 26 มีนาคม"
สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า กำหนดระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อ ภายใน 7 วัน ทำนิติกรรม ภายใน 3 วัน และหากมีความจำเป็น ก็จะเปิดให้บริการในวันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย โดยขั้นตอนอื่นๆ ก็จะดำเนินการในเวลาดังกล่าวได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถดำเนินการได้ทัน
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. ยืนยันว่า ธอส.จะสามารถอนุมัติการให้สินเชื่อบ้านให้ได้ภายใน 7 วัน และทำนิติกรรมภายใน 3 วัน โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติสินเชื่อบ้านภายในเดือนนี้ได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่กรมที่ดินระบุว่าจะจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการโอน หรือการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ โดยเปิดรับเรื่องจนถึงเวลา 16.30 น.ของวันที่ 26 มีนาคม 2553
กรณีที่มาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม 2553 เนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ต่ออายุมาตรการฯ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประชาชนอาจเข้าใจผิดว่ามาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 28 มีนาคม ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงวันดังกล่าวตรงกับวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุดราชการ ดังนั้นวันสุดท้ายของมาตรการคือวันศุกร์ที่ 26 มีนาคม ผู้ประกอบการและลูกค้าที่ซื้อขายและโอนบ้านจึงควรรับทราบข้อมูลและเร่งดำเนินการให้ทันเวลา
ทั้งนี้ เกรงว่าประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะพลาดโอกาสในการใช้สิทธิตามมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะจากผลของความล่าช้าที่อาจจะเกิดขึ้นจากขั้นตอนของธนาคารพาณิชย์ในเรื่องการอนุมัติสินเชื่อบ้าน จึงอยากให้ธนาคารเร่งอนุมัติสินเชื่อบ้านให้แก่ประชาชนที่ยื่นเรื่องเข้ามาแล้วและอยู่ระหว่างรอการอนุมัติ
"ผมได้มีการประสานไปยังแบงก์พาณิชย์ ให้เร่งดำเนินการในการอนุมัติสินเชื่อ และการทำนิติกรรม (ฟาสต์แทร็ก) ตลอดจนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจตรงกันถึงระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวในวันที่ 26 มีนาคม"
สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า กำหนดระยะเวลาการอนุมัติสินเชื่อ ภายใน 7 วัน ทำนิติกรรม ภายใน 3 วัน และหากมีความจำเป็น ก็จะเปิดให้บริการในวันเสาร์และวันอาทิตย์ด้วย โดยขั้นตอนอื่นๆ ก็จะดำเนินการในเวลาดังกล่าวได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ให้สามารถดำเนินการได้ทัน
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. ยืนยันว่า ธอส.จะสามารถอนุมัติการให้สินเชื่อบ้านให้ได้ภายใน 7 วัน และทำนิติกรรมภายใน 3 วัน โดยคาดว่าจะสามารถอนุมัติสินเชื่อบ้านภายในเดือนนี้ได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขณะที่กรมที่ดินระบุว่าจะจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการโอน หรือการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ โดยเปิดรับเรื่องจนถึงเวลา 16.30 น.ของวันที่ 26 มีนาคม 2553
