xs
xsm
sm
md
lg

ไรมอนฯลุยอสังหาฯเพลินจิตหมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไรมอนแลนด์ฯตั้งบริษัทลูก"เพลินจิต แมเนจเม้นท์" คาดลุยโครงการในที่ดินผืนงามใจกลางซีบีดีแยกเพลินจิต คาดมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน พร้อมแจงผลกำไรปี 52 งบรวมขาดทุน 277 ล้านบาท เหตุเจอภาวะการขายอืดบวกตั้งสำรองมูลค่าที่ดินลดลง

นายอูแบร์ โรมารี่ แบร์ตร็อง วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RAIMON แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/53 เมื่อวันที่ 2 มี.ค.53 มีมติอนุมัติการจัดตั้ง บริษัท เพลินจิต แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 ม.ค.53 โดยมีทุนจดทะเบียน 5 แสนบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท

สำหรับสัดส่วนการถือหุ้น บริษัท ไรมอน แลนด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ถือหุ้นจำนวน 4,994 หุ้น คิดเป็น 99.88% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพลินจิต แมเนจเม้นท์ จำกัด วัตถุประสงค์การลงทุน เพื่อการระดมทุน และ/หรือเพื่อการลงทุนและพัฒนาโครงการที่พักอาศัย หรืออสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในอนาคต

โดยก่อนหน้านี้ ทางบริษัทฯได้ทำสัญญาซื้อที่ดินผืนงามใจกลางศูนย์ธุรกิจซีบีดีบริเวณสี่แยกเพลินจิตเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต ซึ่งเดิมเป็นของบริษัท เพลินจิต อาเขต ก่อนที่จะเปลี่ยนมือมาเป็นของบริษัท ภาสกรนที โฮลดิ้ง ซึ่งมีนายตัน ภาสกรนที ผู้บริหารโออิชิ เป็นผู้ถือหุ้นด้วย ที่ดินแปลงดังกล่าวที่กลุ่มไรมอน แลนด์ ซื้อมาในราคากว่า 3,300 ล้านบาท เฉลี่ยราคา 1.2 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งรูปแบบของการพัฒนาโครงการจะเป็นโครงการผสม ที่อาจมีทั้งโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ร้านค้าต่างๆ มูลค่าโครงการหลายหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ทำเลดังกล่าวจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนเซ็นทรัล กลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ผ่านการลงทุนบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในรอบปี 2552 มีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานตามงบการเงินเฉพาะกิจการจำนวน 136.2 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2551 นั้น บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตาม งบการเงินเฉพาะกิจการ 381.1 ล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการรับรู้รายได้และการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ โดยในปี 2552 บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการขายโครงการอสังหาฯได้น้อยกว่าปีก่อน เป็นจำนวนถึง 688 ล้านบาท (ลดลง38% ) ประกอบกับบริษัทมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากเงินให้กู้ระยะสั้นแก่บริษัทย่อยแห่งหนึ่งเป็นจำนวน 273.8 ล้านบาท

ขณะที่ในงบการเงินรวมมีผลขาดทุนสุทธิ 277.1 ล้านบาท เทียบกับปี 51 มีผลกำไรสุทธิ 145.8 ล้านบาท โดยผลขาดทุนที่เกิดขึ้น ปี 2552 ส่วนใหญ่เกิดจากบริษัทย่อยแห่งหนึ่งมีผลขาดทุนจากการยกเลิกสัญญาซื้อเหล็กเป็นจำนวนเงิน 228 ล้านบาท บริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้ตั้งสำรองผลขาดทุนจากการลดมูลค่าของที่ดินรอการขายเป็นจำนวน 189 ล้านบาท และกิจการที่ควบคุมร่วมกันแห่งหนึ่งได้ตั้งสำรองผลขาดทุนจากการลดมูลค่าของต้นทุนรอการพัฒนาเป็นจำนวน 160 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น