รัฐบาลรับเละ แค่ 4 เดือนรายได้จัดเก็บเกินเป้า 8.5 หมื่นล้าน บิ๊ก สศค.มั่นใจทั้งปี 53 ยอดสูงกว่าประมาณการ 1.72 แสนล้าน เหตุเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งภาคการบริโภคและการลงทุน
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ในเดือนมกราคม 2553 มีทั้งสิ้น 1.10 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 17,809 ล้านบาท เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนหนึ่งเกิดจากการนำเข้าทองคำมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณ เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือนพฤศภาคม 2552 และภาษีสรรพสามิตรถยนต์
อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บอากรขาเข้าในเดือนมกราคมลดลงจากที่จัดเก็บได้ในช่วง 3 เดือนแรก เป็นผลกระทบจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีต่างๆ อาทิ เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับสินค้านำเข้าจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา เป็นต้น
ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (เดือนตุลาคม 2552 ถึงเดือนมกราคม 2553) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 458,910 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 85,326 ล้านบาท คิดเป็น 22.8% โดยทั้ง 3 กรมจัดเก็บภาษีจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ
ผู้อำนวยการ สศค.กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2553 คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1.72 แสนล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.522 ล้านล้านบาท
“ผลจากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553 ที่จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.5% ทำให้คลังมั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้บรรลุผลตามที่คาดการณ์ไว้” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวมทั้งสิ้น 311,308 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 35,960 ล้านบาท คิดเป็น 13.1% กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 134,872 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 38,009 ล้านบาท คิดเป็น 39.2% กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 32,367 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7,167 ล้านบาท คิดเป็น 28.4%
ส่วนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ มีจำนวน 25,275 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 369 ล้านบาท คิดเป็น 1.4% และการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่นๆ มีจำนวน 27,534 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,888 ล้านบาทคิดเป็น 11.7%
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ในเดือนมกราคม 2553 มีทั้งสิ้น 1.10 แสนล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 17,809 ล้านบาท เป็นผลจากการบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนหนึ่งเกิดจากการนำเข้าทองคำมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณ เป็นผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันในเดือนพฤศภาคม 2552 และภาษีสรรพสามิตรถยนต์
อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บอากรขาเข้าในเดือนมกราคมลดลงจากที่จัดเก็บได้ในช่วง 3 เดือนแรก เป็นผลกระทบจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีต่างๆ อาทิ เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ที่ลดอัตราอากรขาเข้า สำหรับสินค้านำเข้าจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา เป็นต้น
ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (เดือนตุลาคม 2552 ถึงเดือนมกราคม 2553) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 458,910 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 85,326 ล้านบาท คิดเป็น 22.8% โดยทั้ง 3 กรมจัดเก็บภาษีจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ
ผู้อำนวยการ สศค.กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2553 คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1.72 แสนล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.522 ล้านล้านบาท
“ผลจากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2553 ที่จะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.5% ทำให้คลังมั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้บรรลุผลตามที่คาดการณ์ไว้” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวมทั้งสิ้น 311,308 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 35,960 ล้านบาท คิดเป็น 13.1% กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 134,872 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 38,009 ล้านบาท คิดเป็น 39.2% กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 32,367 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7,167 ล้านบาท คิดเป็น 28.4%
ส่วนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ มีจำนวน 25,275 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 369 ล้านบาท คิดเป็น 1.4% และการนำส่งรายได้ของหน่วยงานอื่นๆ มีจำนวน 27,534 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,888 ล้านบาทคิดเป็น 11.7%