"กรมศุลกากร" เกาะติดผลกระทบ "อาฟตา" ลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% คาดเห็นผลชัดเจน ก.พ.นี้ คาดเบื้อต้น ส่งผลต่อรายได้ประมาณ 3-4 พันล้านบาท
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยกรณีผลกระทบภายใต้กรอบความร่วมมือเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า การปรับลดภาษีนำเข้าลงเหลือ 0% ทำให้การจัดเก็บภาษีต้องลดลงโดยอัตโนมัติ กรมศุลกากรจึงต้องปรับบทบาทจากหน่วยงานจัดเก็บภาษี เป็นกรมอำนวยความสะดวกด้านบริการต่างๆ ให้กับผู้ที่มาใช้บริการต่างๆ ตามข้อตกลง
อย่างไรก็ตาม แม้กรอบการลดภาษีนำเข้าจะเริ่มต้นแล้ว แต่เร็วเกินไปที่จะประเมินว่า ภาษีจะลดลงมากน้อยแค่ไหนและต้องดูว่า ในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้ เป็นต้นไป ผู้ประกอบการน่าจะเข้ามาใช้สิทธิ์ตามกรอบภาษีอาฟต้ามากขึ้น
โดยเบื้องต้น กรมศุลกากรพบว่า ผู้ประกอบการได้มีการใช้สิทธิ์ตามกรอบภาษีอาฟต้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15% ซึ่งมีผลทำให้กรมศุลกากรต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท และคาดว่า การใช้สิทธิ์ของผู้ประกอบการจะเพิ่มขึ้น หลังจากนี้เป็นต้นไป
สำหรับปีนี้ กรมศุลกากรตั้งเป้าหมายจัดเก็บรายได้ประมาณ 78,000 ล้านบาท และคิดว่าจะสามารถจัดเก็บได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในขณะนี้ มีการปรับตัวดีขึ้น ผู้ประกอบการใช้สิทธิ์ในกรอบต่างๆ ส่งผลทำให้ 3 เดือนแรกปีงบประมาณ 2553 กรมศุลการจัดเก็บรายได้เข้าค่อนข้างมาก
“กรมศุลกากรจะปฏิรูปการทำงานใหม่ให้เป็นกรมอำนวยความสะดวกการค้าแก่ภาคอุตสาหกรรม จะมีการปรับบุคลากรและอุปกรณ์ เน้นการสร้างเป็นมืออาชีพด้านบริการ การปรับปรุงระบบไอที ในการคืนภาษี การปฏิรูประบบไอทีนอกเหนือจากลดขั้นตอนยังเป็นการตัดตอนเงินนอกระบบ ซึ่งจะช่วยผู้ประกอบการ ที่สำคัญจะเร่งปฏิรูปให้บริการประชาชนอย่างโปร่งใส รวมทั้งเน้นบริการใหม่ๆ ซึ่งขณะนี้หลายรูปแบบได้มีการปรับแล้วโดยเฉพาะกฎหมายกฎระเบียบ เชื่อว่าในอนาคตกรมฯ จะเป็นหน่วยงานให้บริการแก่ประชาชน” อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวสรุปทิ้งท้าย