ก.ส.ล.ตั้งเป้าเพิ่มสินค้าเกษตรเข้าเทรดในตลาด AFET ปีละ 2 ชนิด หวังดันวอลุ่มโต 5 เท่าภายในปี 57 ชูจุดเด่นสินค้าหลัก ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำตาล เอธานอล พร้อมหวังในอนาคต ช่วยลดความเสี่ยงในการวางแผนการผลิตได้ครบวงจร
นายวันชัย ผโลทัยถเกิง เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ก.ส.ล.ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) เป็นจำนวน 5,500 สัญญาต่อวัน ภายใน 5 ปี (2557) จากปัจจุบันที่มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 1,100 สัญญาต่อวัน
"ก.ส.ล. อยากเห็น AFET มีปริมาณการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าที่คึกคัก แผนยุทธศาสตร์ของ ก.ส.ล. จึงจะเน้นส่งเสริม และพัฒนา AFET ให้มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีปริมาณการซื้อขายประมาณ 1,100 สัญญาต่อวัน โดย ก.ส.ล. ตั้งเป้าไว้ว่า AFET จะมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่า เป็น 5,500 สัญญาต่อวัน ภายในปี 2557 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า"
การที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพเข้ามาซื้อขายใน AFET เช่น ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำตาล เอธานอล ซึ่งขณะนี้ ก.ส.ล. และ AFET อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการนำสินค้าใหม่เข้ามาซื้อขายให้ได้อย่างน้อย ปีละ 2 ชนิด
นอกจากนี้ ก.ส.ล. ยังมีแผนสนับสนุนนโยบายรัฐนำสินค้าเกษตรมาประมูลผ่าน AFET และมุ่งให้เกษตรกรรู้จักใช้ประโยชน์จากราคาล่วงหน้าในการวางแผนการเพาะปลูก และขายล่วงหน้าผ่านสถาบันเกษตรกร เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา รวมทั้งจะพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจซื้อขายล่วงหน้าในอนาคตอีกด้วย