xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.เตรียมลงดาบสอง "บิ๊กบินไทย" เปิดหลักฐานมัด 4 ข้อหาฉกรรจ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กมธ.วุฒิฯ เตรียมเรียก ปธ.บินไทย ชี้แจง 23 ธ.ค.นี้ เพื่อสวนสวนพฤติกรรมบอร์ดขนกระเป๋าฉาว แย้มผลสอบเบื้อต้น สร้างความเสียหาย 4 ส่วน แบ่งเป็น ค่าระวางจากสัมภาระ 4 แสนบาท , ค่าภาษีนำเข้า ซึ่งคำนวณจากมูลค่าของสินค้าที่ไม่ผ่านการสำแดงต่อศุลกากร ซึ่งมีโทษปรับถึง 4 เท่าจากราคาประเมิน , ค่าขนส่ง และอื่นๆ ตามระเบียบของกรมศุลกากร , ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในกรณีที่มีการนำสินค้านั้นไปขายในท้องตลาด และการนำผลไม้เข้ามาโดยไม่ผ่านการแจ้งให้กรมวิชาการเกษตรที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบการจัดเก็บรายได้ การใช้จ่ายเงินแผ่นดินและการบริหารจัดการทรัพย์สินของแผ่นดิน วุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีพฤติกรรมของกรรมการบริหาร การบินไทย ที่ลักลอบขนสัมภาระเข้าประเทศ โดยใช้สิทธิพิเศษของกรรมการ และมีน้ำหนักเกินที่กำหนดจำนวนมาก ทั้งยังไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร เรื่องดังกล่าว อนุ กมธ.ได้ส่งให้ กมธ.ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ซึ่งมี น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.เป็นประธานสอบสวน ซึ่งตนได้เข้าร่วมกับ กมธ.ชุดนี้ในฐานะที่ปรึกษาด้วย โดยในวันที่ 23 ธันวาคม 2552 กมธ.จะเชิญนายอำพน กิตติอำพน ประธานบอร์ด การบินไทย เข้ามาชี้แจง

สำหรับข้อมูลเบื้อต้นที่ กมธ.ตรวจพบว่า กรณีดังกล่าว สร้างความเสียหาย 4 ส่วน ประกอบด้วย 1.การบินไทยไม่ได้รับค่าระวางจากสัมภาระประมาณ 4 แสนบาท 2.ค่าภาษีนำเข้า ซึ่งคำนวณจากมูลค่าของสินค้าที่ไม่ผ่านการสำแดงต่อศุลกากร ซึ่งมีโทษปรับถึง 4 เท่าจากราคาประเมิน ค่าขนส่ง และอื่นๆ ตามระเบียบของกรมศุลกากร 3.ภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ในกรณีที่มีการนำสินค้านั้นไปขายในท้องตลาด และ 4.กรณีของการนำผลไม้เข้ามาโดยไม่ผ่านการแจ้งให้กรมวิชาการเกษตรที่สนามบินสุวรรณภูมิ

นอกจากนี้ กรณีที่เป็นข่าวเกิดขึ้นว่า มีการขนสินค้าฟุ่มเฟือยเพื่อนำไปขายที่ซอยละลายทรัพย์ บุคคลที่มีการรับสินค้าจากกรณีหรือรับไปขายต่อ ต้องถือว่ามีความผิดเหมือนกับการรับซื้อของโจรเช่นกัน เพราะสินค้าดังกล่าวไม่ได้ผ่านการสำแดงต่อกรมศุลกากร จึงถือเป็นของเถื่อน
คำถามที่นายวัลลภ พุกกะณะสุต และบอร์ดการบินไทยต้องตอบ
คำถามที่นายวัลลภ พุกกะณะสุต และบอร์ดการบินไทยต้องตอบ
หลักฐานโจ่งแจ้งชัดเจนขนาดนี้ ถ้าเป็นที่เกาหลี หรือญี่ปุ่น นายวัลลภต้องฆ่าตัวตายแล้ว แต่ที่นี่คือประเทศไทย และที่นี่คือ การบินไทย ที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้บริหาร จะทำอะไรก็ได้ คนอื่นอย่ามายุ่ง แค่เรื่องเล็กน้อยๆ ขนของน้ำหนักเกินไป 500 กิโล ยังละไม่ได้ แล้วเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเป็น ร้อยล้านพันล้าน จะอดใจไหวหรือ อยากถามไปถึงคณะกรรมการของบริษัทการบินไทยด้วยว่า กรณีของนายวัลลภนี้ พวกท่านซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลัดกระทรวง เป็นอธิบดี เป็นผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชน ซึ่งชอบท่องคำว่า ธรรมาภิบาล คิดจะทำอะไรบ้างไหม หรือว่าถึงเวลาประชุมบอร์ด ก็นั่งพูดคุยยิ้มแย้มแจ่มในกันเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะรเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น